บมจ.ไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (TLUXE) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ (2 ส.ค.) อนุมัติการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ (Geothermal Energy) และโรงไฟฟ้าพลังงานลม รวม 3 โครงการ ในญี่ปุ่น มูลค่าการลงทุนรวม 194.16 ล้านบาท โดยคาดว่าจะทำสัญญาซื้อขายได้ในเดือนส.ค.60 และคาดว่าโรงไฟฟ้าจะเริ่มจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ในเดือนส.ค. ทำให้สามารถรับรู้รายได้ได้ทันที
การลงทุนในครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ ในญี่ปุ่น เนื่องจากต้องรักษาโอกาสทางธุรกิจและเพื่อให้ได้รับประโยชน์จากราคาขายไฟในอัตราสูงสุดตามกฎเกณฑ์ของกระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรม (METI) ด้วยการซื้อกิจการบริษัท Lena Power Station No.1 Limited Liability Company ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นภายใต้กฎหมาย ของประเทศญี่ปุ่นและเป็นสัญชาติญี่ปุ่น ทั้งนี้ บริษัทมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ รวมกันทั้งสิ้น 2 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตรวม 250 กิโลวัตต์ ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองเบบปุ จังหวัดโออิตะ ประเทศญี่ปุ่น โดยมีมูลค่ารวมของทั้งสองโครงการ 600 ล้านเยน หรือประมาณ 183.17 ล้านบาท
สำหรับทั้ง 2 โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพดังกล่าว คาดว่าจะเริ่มขายไฟฟ้าได้ในเดือนส.ค.60 จำหน่ายไฟฟ้าให้กับบริษัท คิวชู อิเล็กทริก พาวเวอร์ จำกัด มีอัตรารับซื้อไฟฟ้าไม่รวมภาษี 40 เยน/หน่วย ระยะเวลา 15 ปี ภายหลังสิ้นสุดสัญญารับซื้อไฟฟ้าปีที่ 15 บริษัทสามารถขายไฟฟ้าต่อไปได้ แต่อัตรารับซื้อไฟฟ้าจะลดลงจาก 40 เยน/หน่วย
หลังจากการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ เพิ่มอีก 2 โครงการในครั้งนี้แล้ว เมื่อรวมกับ 8 โครงการที่จะเริ่ม COD ในเดือนส.ค.นี้ และ 3 โครงการที่ได้ดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว จึงทำให้บริษัทมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพในประเทศญี่ปุ่น ที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ ณ เดือนส.ค.60 จำนวน 13 โครงการ และจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือนก.ย.จำนวน 2 โครงการ และในไตรมาส 4 อีกจำนวน 8 โครงการ รวมแล้วบริษัทจะมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ทั้งสิ้น 23 โครงการ มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมทั้งหมด 2,875 กิโลวัตต์ หรือกำลังการผลิตเทียบเท่ากับ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 23 เมกะวัตต์
ส่วนลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม จะเป็นการลงทุนที่เมืองอาโอโมริ (Aomori) ประเทศญี่ปุ่น จำนวน 1 ยูนิต มูลค่ารวม 36 ล้านเยน หรือประมาณ 10.99 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มขายไฟฟ้าได้ในเดือนส.ค.60 โดยจำหน่ายให้กับบริษัท โทโฮคุ จำกัด (Tohoku) อัตรารับซื้อไฟฟ้าไม่รวมภาษีที่ 55 เยน/หน่วย สัญญารับซื้อไฟฟ้า 20 ปี ภายหลังสิ้นสุดสัญญารับซื้อไฟฟ้าปีที่ 20 บริษัทสามารถขายไฟฟ้า ต่อไปได้ แต่อัตรารับซื้อไฟฟ้าจะลดลงจาก 55 เยน/หน่วย
สำหรับแหล่งเงินลงทุนจะมาจากเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน หรือกระแสเงินสดของบริษัท ส่วนผลกระทบต่ออัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E-Ratio) จากไตรมาสแรกของปี 60 คือ 0.96 คาดว่าจะสูงขึ้นอีก 0.09 จากการกู้ยืมเงินเพื่อลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ ปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง