นายจิรพล จิยะจันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บมจ.เวิลด์ คอร์ปอเรชั่น (WORLD) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานประจำปี 59/60 (สิ้นสุดวันที่ 31 พ.ค.60) มีกำไรสุทธิ 369.69 ล้านบาท ลดลงจากระดับ 397.58 ล้านบาทในปี 58/59 ขณะที่มีรายได้รวม 1,145.18 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 80.82 ล้านบาท คิดเป็น 6.59% เนื่องจากรายได้จากการขายจากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่ป่าตอง ภูเก็ต ชะลอตัว
อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 4/60 ที่ผ่านมาภายใต้การบริหารจัดการของบริษัท ไทย บอนเนต เทรดดิ้ง โซน จำกัด (โครงการนิคมบางปู) และบริษัท เวิลด์ อินดัสเทรียล เอสเตท จำกัด เดิมชื่อบริษัทซับเบิร์บ เอสเต็ท จำกัด (โครงการนิคมลำพูน) มีรายได้จากการขาย-ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เกิดขึ้นแล้วในไตรมาสดังกล่าว
"จากการเข้าลงทุนในครั้งนี้ ทำให้มีกำไรจากการซื้อธุรกิจ เนื่องจากมูลค่าราคาซื้อน้อยกว่าประมาณมูลค่าของสินทรัพย์สุทธิจากการซื้อหุ้น ณ วันที่ซื้อ บริษัทยังอยู่ระหว่างพิจารณากำไรจากการซื้อธุรกิจที่เกิดจากผลต่างระหว่างสิ่งตอบแทนที่จ่ายซื้อกับมูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์สุทธิที่ได้มาของเงินลงทุนในบริษัทย่อย บริษัทคาดว่าจะได้ประโยชน์จากการทำรายการนี้จากต้นทุนโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทไทย บอนเนต เทรดดิ้ง โซน จำกัด"นายจิรพล กล่าว
นายจิรพล กล่าวว่า ด้านต้นทุนขายของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ลดลงจำนวน 100.48 ล้านบาท จากการโอนกรรมสิทธิ์โดยมีต้นทุนดังกล่าวเป็นต้นทุนขายที่เกิดจากโครงการที่ภูเก็ต และจากการโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินของนิคมบางปู ส่วนค่าใช้จ่ายในการบริหารมีจำนวน 207.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อน 11.96% เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานและบุคลากรฝ่ายบริหาร รวมถึงค่าใช้จ่ายในการบริหารของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จากบริษัทได้ซื้อเพิ่มเข้ามาในไตรมาส 4
ขณะเดียวกันต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้นจากงวดปีก่อน 10.05 ล้านบาท คิดเป็น 26.37% เนื่องจากบริษัทฯ กู้เงินจากสถาบันการเงินเพิ่มขึ้น เพื่อนำเงินมาใช้ในการก่อสร้างและใช้หมุนเวียนในบริษัท
ด้าน WORLD แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯเพิ่มเติมวา อย่างไรก็ตามในปีนี้บริษัทได้สำรองกำไรสุทธิ เข้าในกองทุนมหาวิทยาลัยเวสเทิร์น จำนวน 127.41 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนจำนวน 77.93 ล้านบาท คิดเป็น 37.95% โดยการสำรองดังกล่าวเป็นไปตามพ.ร.บ.สถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ. 2546 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2550 ที่กำหนดให้สถาบันการศึกษาเอกชน ในที่นี้คือมหาวิทยาลัยเวสเทิร์น (บริษัทย่อย) จัดสรรรายได้ที่สูงกว่าค่าใช้จ่ายประจำปี (กำไรสุทธิประจำงวด) ในกองทุนทั่วไปไม่น้อยกว่า 70% ให้กับกองทุนประเภทต่าง ๆ และเป็นทุนดำเนินงานของกองทุนทั่วไป
ดังนั้น ในปีนี้บริษัทมีกำไรสุทธิหลังหักสำรองกำไรเข้ากองทุนมหาวิทยาลัยเวสเทิร์นสำหรับปีสิ้นสุด 31 พ.ค.60 จำนวน 236.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนจำนวน 49.34 ล้านบาท คิดเป็น 26.39%
อนึ่ง เมื่อวันที่ 19 ก.ค.60 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ ขายธุรกิจการศึกษาทั้งหมดออกไปทั้งในส่วนของมหาวิทยาลัยเวสเทิร์นและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง คิดเป็นมูลค่ารวม 1,730 ล้านบาท โดยการอนุมัติในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริษัทสามารถเดินหน้าธุรกิจการเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เป็นหลัก ก่อนกลับเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ