ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สั่งให้บมจ.โพลาริส แคปปิตัล (POLAR) ชี้แจงข้อมูลกรณีบริษัทถูกศาลล้มละลายกลางสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด โดยให้ชี้แจงเข้ามาภายในวันที่ 9 ส.ค.นี้ สืบเนื่องจากตามที่ปรากฏข้อมูลว่าเมื่อวันที่ 3 ส.ค.60 ศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด POLAR ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทไม่เคยแจ้งว่าบริษัทถูกยื่นฟ้องล้มละลาย แจ้งแต่เพียงว่าบริษัทได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการผ่านศาลฯ และต่อมาบริษัทแจ้งขอถอนคำร้องฯ ดังกล่าว
เนื่องจากกรณีที่บริษัทถูกศาลฯ มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดกระทบต่อสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหุ้นอย่างมีนัยสำคัญเป็นอย่างมาก ตลาดหลักทรัพย์จึงสั่งให้บริษัทชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมดังนี้
1.บริษัทถูกศาลฯ สั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้วหรือไม่ ขอให้อธิบายว่าคณะกรรมการบริษัทดำเนินการอย่างไรจนถึงขั้นที่ศาลฯ สั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด และคณะกรรมการบริษัทได้รักษาผลประโยชน์สูงสุดของบริษัทและผู้ถือหุ้นอย่างไร
2. อธิบายว่าบริษัททราบว่าถูกฟ้องล้มละลายตั้งแต่เมื่อใด พร้อมระบุชื่อผู้ฟ้อง มูลหนี้ และที่มาของมูลหนี้ที่ยื่นขอให้ศาลฯ สั่งล้มละลาย รวมทั้งอธิบายว่าเจ้าหนี้รายดังกล่าวเป็นบุคคลเดียวกันกับเจ้าหนี้ที่ฟ้องให้บริษัทชำระหนี้จนเป็นเหตุให้บริษัทต้องยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการผ่านศาลฯ หรือไม่ อย่างไร
3. ลำดับเหตุการณ์และข้อเท็จจริงตั้งแต่บริษัทยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการผ่านศาลฯ การถอนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ และการถูกฟ้องล้มละลายจนเป็นเหตุให้ศาลฯ สั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด
4. แนวทางดำเนินการของบริษัทภายหลังถูกศาลฯ สั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด โดยอธิบายถึงขั้นตอนและระยะเวลาดำเนินการเพื่อรักษาประโยชน์สูงสุดของบริษัทและผู้ถือหุ้น
5. เหตุใดคณะกรรมการบริษัทจึงละเลยไม่เปิดเผยข้อมูลการถูกฟ้องล้มละลาย ทั้งที่บริษัทมีหน้าที่ต้องเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวต่อตลาดหลักทรัพย์ฯทันที ซึ่งเป็นกรณีที่บริษัทไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์มาแล้วหลายครั้ง
ทั้งนี้ ให้บริษัทชี้แจงข้อมูลดังกล่าวเพื่อเผยแพร่ผ่านระบบของตลาดหลักทรัพย์ภายในวันที่ 9 ส.ค.60 รวมทั้งเร่งชี้แจงข้อมูลที่ตลาดหลักทรัพย์ฯสอบถาม ซึ่งรวมถึงกรณีการขอถอนคำร้องฟื้นฟูกิจการภายในระยะเวลาอันสั้นโดยไม่ชี้แจงเหตุผลที่มาของมูลหนี้ซึ่งมีข้อเท็จจริงที่ไม่สอดคล้องกันและไม่สอดคล้องกับที่เคยแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ และความเห็นของคณะกรรมการในการพิจารณาหนี้ที่เกิดจากการเรียกร้องค่าเสียหายและค่าขาดประโยชน์เป็นภาระหนี้ทั้งจำนวนของบริษัทจนเป็นเหตุให้บริษัทมีหนี้สินล้นพ้นตัว