บมจ.อะมานะฮ์ ลิสซิ่ง (AMANAH) แจ้งผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/60 ขาดทุนสุทธิ 52.24 ล้านบาท จากกำไรสุทธิ 2.88 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของก่อน เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญ จำนวน 90.02 ล้านบาท ซึ่งเป็นการตั้งสำรองลูกค้าเช่าซื้อปกติ สำรองตามเกณฑ์คุณภาพ และอีกส่วนหนึ่งเป็นการตั้งสำรองลูกหนี้เอสเอ็มอี ประเภทสินเชื่อเพื่อซื้อสินค้าเพิ่มเติมเผื่อไว้สำหรับลูกหนี้สินเชื่อที่ฝ่ายบริหารประเมินว่าอาจเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ในอนาคต
อย่างไรก็ตามในไตรมาส 2/60 บริษัทมีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 41.88% เป็น 119.67 ล้านบาท มาจากการเติบโตของพอร์ตธุรกิจสินเชื่อเช่าซี้อรถยนต์ใช้แล้ว และอัตราผลตอบแทน (Yield) ของพอร์ตที่สูงขึ้นเป็นหลัก โดย Yield ถัวเฉลี่ยของพอร์ตโดยรวมได้เพิ่มขึ้น จาก 13.1% ในไตรมาส 2/59 เป็น 16.3% ในไตรมาส 2/60 นอกจากนี้การเพิ่มของรายได้รวมยังมาจากรายได้จากค่าธรรมเนียมและบริการ โดยที่รายได้จากสัญญาเช่าซื้อ ในไตรมาส 2/59 มีจำนวน 59.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 95.56 ล้านบาทในไตรมาส 2/60 ส่วนรายได้จากค่าธรรมเนียมและบริการในไตรมาส 2/59 มีจำนวน 9.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 14 ล้านบาทในไตรมาสนี้ ส่วนรายการที่มีรายได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่ รายได้อื่นซึ่งเป็นรายได้ที่มาจากการชำระหนี้ของลูกหนี้ที่มีคำพิพากษาที่ลดลงในอัตรา 44.63% สำหรับด้านค่าใช้จ่าย บริษัทมีค่าใช้จ่ายรวมเพิ่มขึ้นในอัตรา 104.14% เป็น 168.86 ล้านบาทในไตรมาส 2/60 ทั้งนี้ ตั้งแต่ช่วงเดือนม.ค.-มิ.ย.60 บริษัทได้อนุมัติสินเชื่อใหม่ไปแล้ว 653.98 ล้านบาท หากพิจารณาเฉพาะไตรมาส 2/60 อนุมัติสินเชื่อใหม่ได้จำนวน 378.03 ล้านบาท โดยมีสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของธุรกิจ (Non Performing Finance) ณ ไตรมาส 2/60 เท่ากับ 9.40% เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/59 เท่ากับ 0.93% สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากผลกระทบจากการเกิดอุทกภัยในภาคใต้ช่วงต้นปี 60