บมจ.อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค (ECF) ชี้แจงว่าตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ขอให้รายงานการติดตามรายการเงินให้กู้ยืมระยะสั้นแก่ บมจ.อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น (IFEC) จำนวน 50 ล้านบาท ซึ่งครบกำหนดในวันที่ 26 ส.ค.60 นั้น ขณะนี้ในส่วนของการเข้าตรวจสอบฐานะกิจการ (Due Diligence) เพื่อประกอบการศึกษาความเป็นไปได้ในการเข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล บริษัท ทรูเอ็นเนอร์ยี่เพาเวอร์ลพบุรี จำกัด (TRUE-P) ยังไม่มีความคืบหน้าเมื่อเทียบกับครั้งก่อนที่แจ้งข่าวต่อ ตลท.เนื่องจาก IFEC ยังอย่รูหว่างการแก้ปัญหาภายใน ซึ่งขณะนี้ยังรอความชัดเจนของตัวแทนผู้มีอำนาจจากทาง IFEC เพื่อทาง ECF จะสามารถเข้าเจรจาหาข้อสรุปในการเข้าซื้อหุ้นของ TRUE-P ต่อไป
ECF ได้จัดทำหนังสือข้อตกลงเพิ่มเติม สำหรับบันทึกความเข้าใจ (MOU) และสัญญากู้ยืมเงินฉบับวันที่ 26 ธ.ค.59 เพื่อตกลงขยายระยะเวลาการหาข้อสรุปการเข้าซื้อกิจการ รวมถึงขยายระยะเวลาการจ่ายชำระคืนหนี้ให้กับทาง ECF ออกไปจนถึงวันที่ 26 ธ.ค.60 ทั้งนี้เอกสารการขยายระยะเวลาครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 3 จาก ครั้งที่ 1 เอกสารขยายระยะเวลาลงวันที่ 20 มี.ค.60 ขยายระยะเวลาถึงวันที่ 26 พ.ค.60 และ ครั้งที่ 2 เอกสารขยายระยะเวลาลงวันที่ 22 พ.ค.60 ขยายระยะเวลาถึงวันที่ 26 ส.ค.60
ทั้งนี้ ECF อยู่ระหว่างการติดตามทวงถามดอกเบี้ยคงค้างชำระที่เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาของสัญญากู้ยืมเงินในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 6.25 ต่อปี นับจากวันที่ของสัญญากู้ยืมเงิน ซึ่งขณะนี้ได้รับชำระครั้งล่าสุดเป็นยอดดอกเบี้ยจ่ายถึงสิ้นเดือน มี.ค.60 รวมดอกเบี้ยจ่ายที่ได้รับชำระทั้งสิ้น 797,825.34 บาท คงเหลือดอกเบี้ยค้างชำระจำนวน 1,269,657.53 บาท
ปัจจุบัน ECF ยังไม่ได้พิจารณาดำเนินการใด ๆ กับหลักประกันที่มีอยู่ในขณะนี้อย่างไรก็ดี หาก IFEC ไม่สามารถลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นของ TRUE-P ได้ บริษัทจะพิจารณาดำเนินการใช้สิทธิเรียกร้องในหนี้เงินกู้และหลักประกันตามที่เห็นสมควรต่อไป