FTE คาดกำไร-รายได้ปีนี้นิวไฮ หลังได้งานโครงการใหญ่ หนุน Backlog มาที่ 450 ลบ.รับรู้รายได้ปีนี้ 60-70%

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday September 4, 2017 08:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายทักษิณ ตันติไพจิตร กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไฟร์เทรดเอ็นจิเนียริ่ง (FTE) คาดว่ากำไรสุทธิและรายได้ปีนี้จะทำสถิติสูงสุดใหม่ โดยในส่วนรายได้คาดว่าจะเติบโตราว 10% มาอยู่ที่ 900- 1,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่ทำได้ 829 ล้านบาท ขณะที่คาดว่าอัตรากำไรสุทธิจะอยู่ที่ 12% สูงกว่าระดับ 11% ในปีก่อน ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะอยู่ที่ 26% ใกล้เคียงครึ่งปีแรก

นอกจากนี้บริษัทยังเน้นการเข้าประมูลงานออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิงครบวงจรให้กับโครงการขนาดใหญ่มากขึ้น ซึ่งล่าสุดได้รับคัดเลือกเป็นผู้ออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิงให้แก่สถานีไฟฟ้าแรงสูงของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จำนวน 6-7 แห่ง และระบบดับเพลิงด้วยสารสะอาดโครงการรถไฟสายสีแดง มูลค่ารวมประมาณ 120 ล้านบาท ส่งผลให้มูลค่างานในมือ (Backlog) ของบริษัทปัจจุบันอยู่ที่ 450 ล้านบาท แบ่งเป็น งานออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิง 330 ล้านบาท งานจัดจำหน่าย 120 ล้านบาท คาดจะรับรู้รายได้ปีนี้ 60-70%

พร้อมกันนี้บริษัทอยู่ระหว่างรอผลพิจารณางานออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิงโครงการขนาดเล็กและโครงการขนาดใหญ่ เช่น โครงการของกฟผ. และโครงการรถไฟสายสีแดง มูลค่ารวมราว 220 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะได้รับงานราว 100 ล้านบาท โดยจะทยอยทราบผลจนถึงช่วงสิ้นปีนี้ อีกทั้งยังเตรียมยื่นประมูลงานออกแบบติดตั้งระบบสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้โครงการของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ในการนำสายไฟฟ้าลงใต้ดิน โดยการยื่นผ่านผู้รับเหมาหลักเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน

สำหรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทมีแผนเพิ่มพนักงานขายอีก 8 รายจากปัจจุบันที่ 32 ราย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการ ขยายฐานลูกค้ารายใหม่ และเร่งยอดขายให้เติบโตมากขึ้น นอกจากนี้จะทำการเปิดสำนักงานขายที่จังหวัดระยอง เพื่อให้บริษัทกระจายสินค้าได้สะดวกรวดเร็ว และให้บริการได้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันความต้องการระบบดับเพลิงยังมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่มูลค่าตลาดรวมปัจจุบันอยู่ที่ 4.5 พันล้านบาท โดยบริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 18% ถือเป็นอับหนึ่ง และตั้งเป้าจะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดปีละ 1-2 %

“ปีนี้เราได้ประมูลงานมากขึ้น ทั้งที่เป็นโครงการภาครัฐและเอกชน ซึ่งจะทยอยรู้ผลและรับรู้รายได้บางส่วนในช่วงที่เหลือของปีนี้ด้วย นอกจากนี้เรายังมีแผนที่ขยายพนักงานขายให้ได้ตามแผนที่ 10 คน หลังเพิ่มไปแล้ว 2 คน โดยการเพิ่มพนักงานจะส่งผลให้ยอดขายเติบโตได้ราว 100-200 ล้านบาทต่อปี ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการของเราเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และเพิ่มมาร์เก็ตแชร์ได้ราว 1-2% ต่อปี"นายทักษิณ กล่าว

นายทักษิณ กล่าวเพิ่มเติมว่า งานก่อสร้างในกลุ่มประเทศ CLMV มีแนวโน้มการขยายตัวเป็นอย่างมาก และมีความต้องการใช้ระบบ-อุปกรณ์ดับเพลิงเพิ่มขึ้นตาม ทั้งนี้ บริษัทมีแผนเข้าไปรุกตลาดในกลุ่มประเทศดังกล่าว โดยเบื้องต้นได้มีการเข้าไปเปิดตลาดในประเทศกัมพูชา ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับเจ้าของโครงการหลายแห่ง คาดว่าจะมีข้อสรุปที่ชัดเจนในเร็ว ๆ นี้

“ประเทศกัมพูชามีแผนก่อสร้างโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานขนาดใหญ่จำนวนมาก ตามการพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งมีความต้องการในการติดตั้งอุปกรณ์ดับเพลิงและระบบดับเพลิงที่ได้มาตรฐาน ควบคุมงานโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ ถือเป็นโอกาสของบริษัทในการขยายธุรกิจไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยรูปแบบการเข้ารับงาน มีความเป็นไปได้ทั้งการลงทุนเองหรือการร่วมมือกับพันธมิตรท้องถิ่น ซึ่งไม่ว่าจะดำเนินการในรูปแบบใด บริษัทก็มีความพร้อมที่จะเข้าดำเนินการครบทุกด้าน ทั้งด้านบุคลากร ความเชี่ยวชาญ รวมถึงบริษัทมีอุปกรณ์ดับเพลิงและระบบดับเพลิงครบวงจรที่ได้มาตรฐานสากล"นายทักษิณ กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ