บมจ.พริ้นซิเพิล แคปิตอล (PRINC) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ (25 ก.ย.) มีมติอนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2560 พิจารณาอนุมัติการเข้าซื้อกิจการของกลุ่มบริษัท อลิอันซ์ เมดิคอล เอเชีย จำกัด มูลค่าไม่เกิน 2 พันล้านบาท โดยการซื้อหุ้นในสัดส่วนประมาณ 99.99% ของบริษัท อลิอันซ์ เมดิคอล เอเชีย จำกัด (AMA) ซึ่งประกอบธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนในไทย เพื่อกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจจากปัจจุบันที่มีเพียงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
ปัจจุบัน AMA ประกอบธุรกิจลงทุนในหลักทรัพย์ของบริษัทอื่น (Holding Company) และถือหุ้นทางตรงหรือทางอ้อมในบริษัทย่อยจานวน 5 บริษัท ได้แก่ บริษัท พิษณุเวช จำกัด , บริษัท โรงพยาบาลปากน้ำโพ จำกัด ,บริษัท สหแพทย์พิจิตร จำกัด ,บริษัท โรงพยาบาลพิษณุเวชอุตรดิตถ์ จำกัด และบริษัท พี.เอ็น.พี ฮอส ปิทอล จำกัด
การเข้าซื้อหุ้นของ AMA ในครั้งนี้จะส่งผลให้บริษัทได้มาซึ่งบริษัทย่อย และกิจการของบริษัทย่อยทั้งหมดด้วย โดยกลุ่มบริษัท AMA ถือเป็นกลุ่มบริษัทที่มีประสบการณ์ในการประกอบธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนในประเทศไทยมาเป็นระยะเวลายาวนาน และเป็นเจ้าของและดำเนินธุรกิจโรงพยาบาลชั้นนำที่มีชื่อเสียงในบริเวณภาคเหนือตอนล่างของประเทศไทยหลายแห่ง เช่น โรงพยาบาลพิษณุเวช ในจังหวัดพิษณุโลก และโรงพยาบาลปากน้ำโพ และโรงพยาบาลปากน้ำโพ 2 ในจังหวัดนครสวรรค์ เป็นต้น
ทั้งนี้ บริษัทเล็งเห็นว่าธุรกิจโรงพยาบาลเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยโรงพยาบาลในกลุ่มบริษัท AMA ถือเป็นโรงพยาบาลชั้น้ำซึ่งตั้งอยู่ในทำเลอันเป็นจุดยุทธศาสตร์ มีการให้บริการการรักษาผู้ป่วยที่ปลอดภัยและได้มาตรฐาน ตลอดจนมีความพร้อมและศักยภาพในการเติบโตในอนาคต การได้มาซึ่งกลุ่มบริษัทดังกล่าวน่าที่จะช่วยเสริมสร้างการเติบโตและเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแสวงหารายได้ของกลุ่มธุรกิจของบริษัทต่อไปในอนาคต
เบื้องต้นคาดว่าหากที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติรายการดังกล่าวในเดือน พ.ย.60 บริษัทน่าจะสามารถเข้าซื้อกิจการของกลุ่มบริษัท AMA ได้แล้วเสร็จภายในเดือน ธ.ค.60 โดยแหล่งเงินลงทุนจะมาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน และเงินทุนจากสถาบันการเงิน
พร้อมกันนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ยังอนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติการแก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ของบริษัท เพื่อรองรับการประกอบธุรกิจโรงพยาบาลของบริษัทในอนาคต
บริษัทเห็นว่าการเข้าซื้อหุ้นใน AMA ในครั้งนี้จะส่งผลดีต่อการบริหารจัดการและการดำเนินธุรกิจของบริษัทในระยะยาว การดำเนินการดังกล่าวจะยังเป็นการช่วยกระจายความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจของบริษัทอีกด้วย อย่างไรก็ดีในอนาคตและเพื่อประโยชน์ของบริษัท และผู้ถือหุ้น บริษัทอาจพิจารณาจำหน่ายสินทรัพย์บางรายการของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อนำเงินมาลงทุนเพิ่มเติมในธุรกิจโรงพยาบาล