บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) ระบุว่าบริษัทยังคงมุมมองแนวโน้มผลประกอบการของปี 60 โดยคาดว่ารายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่ายจะอยู่ในระดับเดียวกับปีก่อน ขณะที่บริษัทยังคงแผนการลงทุนของปี 60 ด้วยวงเงินประมาณ 1.7-2 หมื่นล้านบาท รวมทั้งบริษัทยังคงแนวโน้มของกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย,ภาษี,ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ในปีนี้ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ระดับเดียวกับปี 59 เป็นอย่างน้อย ทั้งนี้ บริษัทให้ความสำคัญกับการสร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน รวมทั้งรักษาสถานะทางการเงินให้มีความคล่องตัวในช่วงก่อนสิ้นสุดสัญญาสัมปทาน และการประมูลคลื่นความถี่ในปี 61
ขณะที่การแข่งขันในตลาดบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ มีแนวโน้มแข่งขันอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ให้บริการยังคงใช้โปรโมชั่นเกี่ยวกับเครื่องโทรศัพท์ในการสร้างฐานลูกค้าระดับบน รวมทั้งยังคงมีการให้ส่วนลดค่าเครื่องในตลาดบริการระบบเติมเงินอยู่บ้างแต่ในระดับที่ลดลง ทั้งนี้ บริการอินเตอร์เน็ตยังคงเป็นปัจจัยหลักในการสร้างความเติบโตอันเป็นผลจากความต้องการใช้งานที่สูงขึ้น เนื่องจากการใช้งานบริการสตรีมมิ่งที่เพิ่มขึ้นรวมทั้งลูกค้าได้รับประสบการณ์ใช้งานอินเตอร์เน็ตที่ดีขึ้นจากโครงข่ายเทคโนโลยี 4G
บริษัทจะพัฒนาภาพลักษณ์ของแบรนด์และโครงข่ายอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อสร้างประสบการณ์ดิจิทัลให้กับผู้บริโภคและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานไปพร้อมกัน นอกจากนี้ บริษัทยังคงทำการเพิ่มความหนาแน่นของโครงข่าย 2.1GHz โดยมุ่งสร้างความเชื่อมั่นของผู้บริโภคด้วยโครงข่ายอินเตอร์เน็ตที่พัฒนาดียิ่งขึ้น พร้อมนำเสนอบริการดิจิทัลและการบริการที่คุ้มค่าให้กับลูกค้าเพื่อให้บริษัทเป็นแบรนด์ดิจิทัลอันดับหนึ่งในประเทศไทยภายในปี 63
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/60 บริษัทมีกำไรสุทธิ 601 ล้านบาท ลดลง 19% จากไตรมาสก่อน และลดลง 8.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยกำไรที่ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากมีค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายที่สูงขึ้นอันเป็นผลจากการลงทุนในโครงข่าย โดยบริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินสุทธิ ต่อ EBITDA อยู่ที่ 0.8 เท่า ขณะที่หนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิลดลงมาอยู่ที่ราว 2.4 หมื่นล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีเงินสดเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ในไตรมาส 3/60 บริษัทสามารถรักษา EBITDA margin ที่ระดับ 41% ได้ติดต่อกันสองไตรมาส อันเป็นผลจากประสิทธิภาพการดำเนินงานที่ดีขึ้น รวมทั้งมีการให้ส่วนลดค่าเครื่องที่ลดลง ทั้งนี้ บริษัทประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการดำเนินธุรกิจโดยมุ่งหวังสร้างประสบการณ์ใช้งานของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้นและลดค่าใช้จ่ายการดำเนินงานได้อย่างเป็นระบบ ซึ่งการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลดังกล่าวได้รับการตอบรับอย่างต่อเนื่อง ดังเห็นได้จากจำนวนผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้นทั้งในแอพพลิเคชั่น “dtac" สาหรับลูกค้าและแอพพลิเคชั่น “dtac One" สำหรับร้านค้า
นอกจากนี้ บริษัทได้เปิดบริการใหม่ภายใต้ชื่อ “Line Mobile" ซึ่งเป็นบริการดิจิทัลเต็มรูปเพื่อสร้างความแตกต่างและช่วยเสริมสร้างตำแหน่งทางการตลาดของบริษัทในการนำเสนอบริการที่คุ้มค่าให้กับลูกค้า
บริษัทลดการให้ส่วนลดค่าเครื่องในตลาดบริการระบบรายเดือนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยเพิ่มคุณภาพของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการและช่วยให้ EBITDA margin ปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ดี รายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่ายในไตรมาส 3/60 ลดลง 1.5% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่บริษัทมี EBITDA (ก่อนรายการอื่น) อยู่ที่ 7.74 พันล้านบาท เติบโต 7.2% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยการเติบโตของ EBITDA มาจากการลดลงของค่าธรรมเนียมและส่วนแบ่งรายได้ การให้ส่วนลดค่าเครื่องที่ลดลง รวมทั้งมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ลดลงอันเป็นผลจากการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและปรับรูปแบบธุรกิจให้คล่องตัวมากขึ้น
ณ สิ้นไตรมาส 3/60 บริษัทมีจำนวนฐานลูกค้ารวมอยู่ที่ระดับ 23.1 ล้านเลขหมาย ลดลงจากระดับ 23.6 ล้านเลขหมายเมื่อไตรมาสก่อน โดยจำนวนผู้ใช้บริการ 4G เพิ่มขึ้นเป็น 7.2 ล้านเลขหมาย หรือ 31% ของฐานลูกค้ารวม ขณะที่จำนวนลูกค้าที่ใช้อุปกรณ์ที่รองรับเทคโนโลยี 4G มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 10.9 ล้านเลขหมาย หรือ 47% ของฐานลูกค้ารวม