บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 ต.ค.60 บริษัทได้รับหนังสือจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แจ้งว่าดาวเทียมไทยคม 7 และดาวเทียมไทยคม 8 เป็นดาวเทียมภายใต้สัญญาดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศ ลงนามเมื่อวันที่ 11 ก.ย.34 ระหว่างบริษัทและกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเดิม โดย INTUCH ได้จัดตั้ง บมจ.ไทยคม (THCOM) ขึ้นมาเพื่อดำเนินงานตามสัญญาดังกล่าว โดยหนังสือจากกระทรวงดิจิทัลฯ ระบุให้ปฏิบัติตามสัญญาดำเนินกิจการสื่อสารให้ครบถ้วนโดยด่วน อาทิ การโอนกรรมสิทธิ์และส่งมอบทรัพย์สิน การจัดสร้างดาวเทียมสำรอง การชำระเงินผลประโยชน์ตอบแทน และการประกันภัยทรัพย์สิน
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 18 ต.ค.60 ได้พิจารณาและหารือกับที่ปรึกษากฎหมายแล้วมีความเห็นว่าดาวเทียมทั้ง 2 ดวงไม่ใช่ดาวเทียมภายใต้สัญญาดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสาร แต่เป็นการดำเนินการภายใต้กรอบของการรับใบอนุญาตจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) บริษัทได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขและช้อกำหนดในสัญญาดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารอย่างครบถ้วน โดยไม่ได้ดำเนินการใด ๆ ขัดต่อสัญญา ซึ่งแตกต่างจากความเห็นของกระทรวงดิจิทัลฯ
ดังนั้น ที่ประชุมจึงมีมติให้บริษัทยื่นเสนอข้อพิพาทดังกล่าวต่ออนุญาโตตุลาการเพื่อพิจารณาชี้ขาดข้อพิพาทที่เกิดขึ้น โดยบริษัทได้ดำเนินการยื่นข้อโต้แย้งต่อสถาบันอนุญาโตตุลาการในวันที่ 25 ต.ค.60 เป็นข้อพิพาทหมายเลขดำที่ 97/2560
อนึ่ง บริษัทชี้แจงว่าในขณะที่ข้อพิพาททอยู่ระหว่างการพิจารณาของอนุญาโตตุการ บริษัทยังไม่มีหน้าที่ในการปฏิบัติตามที่กระทรวงดิจิทัลฯ ได้กล่าวอ่างจนกว่าจะมีการชี้ขาด