PTTGC คาดปี 61 GRM เฉลี่ย 7 เหรียญฯ ไม่มีแผนหยุดโรงกลั่น,สเปดอะโรเมติกส์ทรงตัว-ราคาโอเลฟินส์อ่อนลง

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 8, 2017 13:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) รายงานแนวโน้มตลาดและธุรกิจในปี 61 คาดว่าค่าการกลั่น (GRM) จะมีค่าเฉลี่ยประมาณ 7 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ส่วนการใช้กำลังการผลิตของโรงกลั่นน้ำมันคาดว่าจะสามารถดำเนินการผลิตได้ 100% และไม่มีแผนการหยุดซ่อมบำรุง

ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าราคาน้ำมันดิบในปี 61 มีแนวโน้มที่จะปรับตัวดีขึ้น จากรายงานอัตราความร่วมมือการลดปริมาณการผลิตน้ำมัน (Compliance Rate) ของกลุ่ม OPEC และ Non-OPEC อยู่ในระดับที่ดีต่อเนื่อง ประเด็นความไม่แน่นอนจากสถานการณ์ความไม่สงบในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในภูมิภาค และการคาดการณ์ของตลาดถึงความเป็นไปได้ถึงการต่ออายุมาตรการตรึงกาลังการผลิตน้ำมันของกลุ่ม OPEC และ Non-OPEC

อย่างไรก็ดีในปี 61 ปัจจัยหลักที่จะมีผลกระทบเรื่องปริมาณการผลิตปิโตรเลียมจากแหล่งหินดินดาน (Shale) ในสหรัฐฯ ที่ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นยังเป็นปัจจัยหลักที่จะกดดันราคาน้ำมันในอนาคต

สำหรับผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม บริษัทคาดว่าส่วนต่างราคาน้ำมันดีเซลจะมีการปรับตัวดีขึ้นจากค่าเฉลี่ยในปี 60 ขณะที่ส่วนต่างราคาน้ำมันเตาและแก๊ซโซลีนคาดว่าจะปรับตัวลดลง โดยส่วนต่างราคาน้ำมันดีเซลกับน้ำมันดิบดูไบคาดว่าจะอยู่ประมาณ 13 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่คาดว่าจะมีการเติบโต 3.7% ในปีหน้า ซึ่งจะช่วยให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจมีเพิ่มขึ้น ในขณะที่ส่วนต่างราคาน้ำมันเตาและแก๊ซโซลีนคาดว่าจะมีการปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ประมาณ -3.5 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรลและ 14.2 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ตามลำดับ

ด้านแนวโน้มผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์คาดว่าส่วนต่างของผลิตภัณฑ์ (สเปรด) พาราไซลีนกับคอนเดนเสทในปี 61 จะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยในปี 60 ที่ประมาณ 377 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน แม้ว่าจะมีการคาดการณ์ถึงกำลังการผลิตใหม่ที่จะเข้ามาในปี 61 ในช่วงครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้นจากเวียดนาม และช่วงปลายปีจะมาจากซาอุดิอาระเบีย แต่ก็คาดว่าปริมาณความต้องการของผลิตภัณฑ์ปลายน้ำของ Purified terephthalic acid (PTA) PET Resin และ Polyester ยังคงมีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะความต้องการในจีน ซึ่งกำลังการผลิตใหม่ๆ ของ PTA ซึ่งมีกำลังการผลิตที่สูงและต้นทุนต่อหน่วยต่ำกว่าในอดีต เป็นปัจจัยที่จะช่วยลดผลกระทบต่อราคาพาราไซลีน

ขณะที่ส่วนต่างของราคาเบนซีนและคอนเดนเสทคาดว่าจะอยู่ประมาณ 307 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน โดยคาดว่าอุปสงส์ของผลิตภัณฑ์เบนซีนจะปรับตัวดีขึ้นกว่าอุปทานใหม่ที่จะเข้ามาในตลาด โดยเฉพาะจีนที่คาดว่าความต้องการผลิตภัณฑ์สไตรีนโมโนเมอร์ (Styrene monomer) จะเพิ่มสูงขึ้น สำหรับการใช้กำลังการผลิตในปี 61 บริษัทคาดการณ์จะดีมาอยู่ที่ 91% โดยเป็นผลจากการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตของหน่วยผลิตอะโรเมติกส์ 2 ในปีนี้และไม่มีแผนการหยุดซ่อมบำรุงในปี 61

แนวโน้มของสถานการณ์ผลิตภัณฑ์โอเลฟินส์และผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องมีแนวโน้มอ่อนตัว โดยคาดว่าราคาเอทิลีนจะอยู่ราว 1,009 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน และราคาเฉลี่ยเม็ดพลาสติกโพลีเอทิลีนจะอยู่ราว 1,133 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน โดยตลาดคาดการณ์ว่ากำลังการผลิตจากโครงการใหม่ในสหรัฐอเมริกาจะเป็นปัจจัยที่สำคัญและมีผลกระทบต่อภาพรวมของตลาด อย่างไรก็ดี จากการเติบโตของอุปสงค์ของเม็ดพลาสติกโพลีเอทิลีนและเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มในเชิงบวก รวมถึงการทยอยเข้ามาของกำลังการผลิตและการเริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ ทำให้คาดว่าตลาดจะอยู่ในระดับที่สมดุล ขณะที่ราคา MEG คาดว่าจะได้รับแรงกดดันจากกำลังการผลิตใหม่ที่จะเข้ามาและคาดว่าราคาเฉลี่ยจะอยู่ประมาณ 903 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน

ทั้งนี้ ในปี 61 คาดกำลังการผลิตของธุรกิจโอเลฟินส์จะอยู่ที่ 99% โดยได้รวมผลกระทบจากแผนการหยุดซ่อมบำรุงหน่วยผลิตโอเลฟินส์ 1 ในไตรมาส 3/61 แล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ