บมจ.ซุปเปอร์บล๊อก (SUPER) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ (8 พ.ย.) อนุมัติให้บริษัท กรีน ไบ-โอ มหาสารคาม จำกัด (GBOM) ถือหุ้น 100% โดยบริษัท ซุปเปอร์ โซล่าร์ เอนเนอร์ยี จำกัด (SSE) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เข้าลงทุนเป็นผู้สนับสนุนโครงการ เพื่อดำเนินโครงการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ติดตั้งบนพื้นดิน สำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร พ.ศ. 2560 (โซลาร์ฟาร์ม ส่วนราชการและสหกรณ์) ระยะที่ 2 กำลังผลิตติดตั้งรวม 24 เมกะวัตต์ (MW) ในสัดส่วนลงทุน 100% ของทุนจดทะเบียน มีมูลค่าลงทุนไม่เกิน 1.07 พันล้านบาท
โดย GBOM จะเป็นผู้ซื้อหุ้นใน 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท พีเคที กรีน จำกัด ,บริษัท ไทยกรีน จำกัด และบริษัท ไอคิว กู๊ด จำกัด ซึ่งเป็นการซื้อหุ้นจากผู้ขาย ในสัดส่วน 100% ของทุนจดทะเบียน โดยทั้ง 3 บริษัทดังกล่าวเป็นผู้สนับสนุนโครงการโซลาร์ฟาร์ม ส่วนราชการและสหกรณ์ ระยะที่ 2 จำนวน 5 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 24 เมกะวัตต์ มีอัตรารับซื้อไฟฟ้า 4.12 บาท/หน่วย เป็นเวลา 25 ปี
ทั้งนี้ คณะกรรมการได้พิจารณาแล้วเห็นว่าอัตราผลตอบแทนที่จะได้รับจากการจากการลงทุนในช่วงระยะเวลา 25 ปี (IRR) มีอัตรา10.55-11.73% ซึ่งเป็นอัตราที่คณะกรรมการพิจารณาแล้วสามารถยอมรับได้ โดยมีระยะเวลาคืนทุนภายหลังการชำระหนี้สถาบันการเงินครบถ้วน อยู่ในช่วงระยะเวลาประมาณ 8.80-9.72 ปี สำหรับแหล่งเงินทุนที่บริษัทจะใช้ในการเข้าทำรายการ รวม 435.85 ล้านบาท จะมาจากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทที่มีอยู่ ณ วันที่มีการทำรายการ ซึ่งบริษัทคาดว่าการชำระราคาจะไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องและเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท เนื่องจากบริษัทมีเงินสดและกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเพียงพอ ส่วนเงินทุนอีก 632.50 จะมาจากเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน
นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการ ยังอนุมัติให้ SSE เข้าทำสัญญาซื้อหุ้นบุริมสิทธิ ในบริษัทย่อยของบริษัทรวม 2 บริษัท ซึ่งทำธุรกิจผลิตไฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ จากผู้ถือหุ้นเดิมจำนวน 1 ราย โดยมีมูลค่าไม่เกิน 417.71 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทเข้าถือหุ้นใน 2 บริษัทดังกล่าวเพิ่มเป็น 100% จากเดิม 49%
สำหรับบริษัทย่อยทั้ง 2 แห่ง ประกอบด้วย บริษัท ดับเบิ้ลยู อาร์ พี อีเนอร์จี จำกัด (WRP) มีมูลค่าการซื้อหุ้น 369.72 ล้านบาท จะแบ่งชำระเป็น 3 งวดตั้งแต่ปี 60-พ.ค.62 ซึ่งผู้ขายจะโอนกรรมสิทธิหุ้นให้กับ SSE เมื่อได้รับชำระเงินค่าหุ้นครบตามจำนวน โดย WRP มีโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ 8 โครงการ กำลังผลิตรวม 48 เมกะวัตต์ ซึ่งปัจจุบันจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) แล้ว
บริษัท นอร์ธ อีสต์ ฟิวเจอร์ อีเนอร์จี จำกัด (NEFE) มีมูลค่าการซื้อหุ้น 47.98 ล้านบาท จะแบ่งชำระเป็น 3 งวด ตั้งแต่ปี 60-พ.ค.62 ซึ่งผู้ขายจะโอนกรรมสิทธิหุ้นให้กับ SSE เมื่อได้รับชำระเงินค่าหุ้นครบตามจำนวน โดย NEFE มีโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ 1 โครงการ กำลังผลิตรวม 6 เมกะวัตต์ ปัจจุบันจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ ให้กับกฟภ.แล้ว
สำหรับแหล่งเงินลงทุนที่จะใช้ซื้อหุ้นดังกล่าว จะมาจากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทที่มีอยู่ ซึ่งคาดว่าการชำระราคาหุ้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องและเงินทุนหมุนเวียน เนื่องจากบริษัทมีเงินสดและกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเพียงพอ