CPALL เผย Q3/60 กำไรสุทธิ 4.97 พันลบ.โต 20.8% จากรายได้สูงขึ้น 9% กำไรขั้นต้นดีขึ้น-ดอกเบี้ยลดลง

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 13, 2017 18:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) เปิดเผยว่า ในไตรมาส 3/60 บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ จำนวน 4,970 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.8% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักที่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นมาจากผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยอยู่ในระดับที่น่าพอใจ อีกทั้งดอกเบี้ยจ่ายลดลงเป็นผลจากการออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนทดแทนการออกหุ้นกู้เดิม รวมถึงการที่บริษัทยังคงได้รับผลประโยชน์ทางด้านภาษีจากการลงทุนตามนโยบายของรัฐบาลเพื่อสนับสนุนการลงทุนของภาคเอกชนสำหรับการลงทุนในปี 59 และปี 60

ส่วนรายได้ของบริษัทและบริษัทย่อยในไตรมาส 3/60 อยู่ที่ 123,215 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีปัจจัยหลักจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายสินค้าและบริการที่เพิ่มขึ้นจำนวน 9,600 ล้านบาท คิดเป็น 8.8%จากธุรกิจร้านสะดวกซื้อ และธุรกิจศูนย์จำหน่ายสินค้าระบบสมาชิแบบชำระเงินสดและบริการตนเองภายใต้ชื่อ "สยามแม็คโคร"

สำหรับผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกของปี 60 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวมจำนวน 361,370 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักจากรายได้การขายสินค้าและบริการที่เพิ่มขึ้น 7.4% ขณะที่กำไรสุทธิมีจำนวน 14,383 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

โดยรายได้รวมก่อนหักรายการระหว่างกันในงวด 9 เดือนแรกปี 60 แบ่งสัดส่วนตามธุรกิจหลัก เป็นรายได้จากธุรกิจร้านสะดวกซื้อและธุรกิจอื่นๆ มีสัดส่วน 65% รายได้จากธุรกิจค้าส่งแบบชำระเงินสดและบริการตนเองมีสัดส่วน 35% ในขณะที่ปี 59 มีสัดส่วน 64% ต่อ 36%

ผลการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจร้านสะดวกซื้อนั้น บริษัทมีเป้าหมายระยะไกลที่จะมีจำนวนสาขาให้ครบ 13,000 สาขาภายในปี 64 ธุรกิจร้านสะดวกซื้อได้ขยายสาขา 7-Eleven อย่างต่อเนื่อง ในช่วงไตรมาส 3 ปี 60 ธุรกิจสะดวกซื้อเปิดร้านสาขาใหม่รวมทั้งสิ้น 145 สาขา ในทุกประเภท ทั้งร้านสาขาบริษัท ร้าน Stor Business Partner (SBP) และร้านค้าที่ได้รับสิทธิช่วงอาณาเขต โดยใน 9 เดือนแรกปี 60 ธุรกิจร้านสะดวกซื้อได้เปิดร้านสาขาใหม่รวมทั้งสิ้น 610 สาขา ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมาย โดยบริษัทวางแผนที่จะลงทุนเปิดร้านสาขาใหม่อีกประมาณ 700 สาขาในปี 60

ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 60 บริษัทมีจำนวนร้านสาขาทั่วประเทศรวมทั้งสิ้น 10,152 สาขา แบ่งเป็น ร้านสาขาบริษัท 4,536 สาขา (คิดเป็น 45%) และร้าน SBP และร้านค้าที่ได้รับสิทธิช่วงอาณาเขต 5,616 สาขา (คิดเป็น 55%) ร้านสาขาส่วนใหญ่ยังเป็นร้านที่ตั้งเอกเทศ คิดเป็น 86% ของสาขาทั้งหมด ส่วนที่เหลือเป็นร้านในสถานบริการน้ำมัน ปตท.

ด้วยผลสำเร็จของแผนกกลุยุทธิการขยายสาขาและการนำเสนอสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้อย่างเหมาะสม ส่งผลให้ในไตรมาส 3 ปี 60 ธุรกิจร้านสะดวกซื้อมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการรวม 70,845 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 5,880 ล้านบาท หรือคิดเป็น 9.1% ยอดขายเฉลี่ยของร้านเดิมในไตรมาส 3 ปี 60 มีอัตราเติบโต 2.4% โดยมียอดเฉลี่ยต่อร้านต่วันเท่ากับ 79,472 ล้านบาท ยอดซื้อต่อบิลโดยประมาณเท่ากับ 67 บาท ในขณะที่จำนวนลูกค้าต่อสาขาต่อวันเฉลี่ย 1,178 คน

ในไตรมาส 3 ปี 60 อัตราการเติบโตของรายได้ของรายได้จากการขายสินค้ากลุ่มอาหารและกลุ่มอุปโภคไม่รวมบัตรโทรศัพท์ โดยเฉลี่ยของสินค้าทั้งสองกลุ่มอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน ทำให้สัดส่วนรายได้จากสินค้าแต่ละกลุ่มยังคงอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยสัดส่วนของรายได้จากการขาย 70.5% มาจากสินค้ากลุ่มอาหาร และ 29.5% มาจากสินค้าอุปโภคไม่รวมบัตรโทรศัพท์

ทั้งนี้ กำไรขั้นต้นของสินค้าปรับเพิ่มขึ้นเป็น 26.4% ในไตรมาส 3 ปี 60 จาก 26.1% ในไตรมาส 3 ปี 59


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ