บมจ.ปตท. (PTT) เปิดเผยว่า ในไตรมาส 3/60 ปตท. และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ จำนวน 22,331 ล้านบาท ลดลง 8,986 ล้านบาท หรือ 28.7% จากไตรมาส 2/60 ที่มีกำไรสุทธิ จำนวน 31,317 ล้านบาท สาเหตุหลักจากการรับรู้ขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ของ บมจ. ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) แม้ว่าธุรกิจสำรวจและผลิตฯ จะมีผลการดำเนินงานตามปกติที่สูงขึ้นจากไตรมาสก่อนตามปริมาณและราคาขายที่ปรับตัวดีขึ้น และต้นทุนต่อหน่วย (Unit cost) ที่ปรับลดลง นอกจากนี้ ผลการดำเนินงานของธุรกิจโรงแยกก๊าซฯ ปรับลดลงตามปริมาณขายที่ลดลงจากการหยุดซ่อมบำรุงย่อยตามแผนในไตรมาสนี้
อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานภาพรวมของกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นดีขึ้น โดยหลักจากธุรกิจการกลั่นตามค่าการกลั่นทางบัญชี (Accounting GRM) ที่สูงขึ้นตามส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมกับวัตถุดิบ (Crack Spread) ปรับตัวเพิ่มขึ้นในทุกผลิตภัณฑ์ รวมทั้งเป็นผลจากกำไรจากสต๊อกน้ำมัน ขณะที่มีขาดทุนจากสต็อกน้ำมันในไตรมาสก่อน นอกจากนี้ ในงวดนี้กลุ่มปตท. มีผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนลดลงจากการจ่ายชำระคืนเงินกู้สกุลเงินต่างประเทศในระหว่างงวด และมีค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ที่เพิ่มขึ้นตามผลการดำเนินงานปกติที่ดีขึ้น
ขณะที่ช่วง 9 เดือนแรกของปี 2560 ปตท. และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 99,816 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24,294 ล้านบาท หรือ 32.2% จาก 75,522 ล้านบาท ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2559 เนื่องจากผลการดำเนินงานดีขึ้นในเกือบทุกกลุ่มธุรกิจ ทั้งในส่วนธุรกิจที่ ปตท. ดำเนินการเองโดยเฉพาะธุรกิจก๊าซธรรมชาติและบริษัทในกลุ่มปตท. โดยเฉพาะปรับเพิ่มขึ้นมากในส่วนของกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น เป็นผลจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น Accounting GRM ที่สูงขึ้นจากกำไรขั้นต้นจากการกลั่นไม่รวมผลกระทบจากสต๊อกน้ำมัน (Market GRM) ที่เพิ่มขึ้น แม้ว่ากำไรจากสต็อกน้ำมันจะปรับลดลง อีกทั้งราคาปิโตรเคมีก็ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้กำไรขั้นต้นต่อหน่วยของผลิตภัณฑ์ตามราคาตลาด (Market Product to Feed Margin: Market P2F) เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน รวมถึงต้นทุนราคาก๊าซธรรมชาติที่ลดลงเนื่องจากอิงกับราคาน้ำมันเตาย้อนหลังและค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายที่ลดลงตามการปรับปริมาณสำรองปิโตรเลียมที่เพิ่มขึ้นของ PTTEP อีกทั้งงวดนี้ยังมีผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เพิ่มขึ้นจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเหรียญสหรัฐฯ และมีกำไรจากการป้องกันความเสี่ยงของตราสารอนุพันธ์เพิ่มขึ้น แม้จะมีการรับรู้ขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ของ PTTEP ก็ตาม