บมจ.ฟู้ด แคปปิตอล (FC) เปิดเผยแผนปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ พร้อมลดขาดทุนสะสม ก่อนเพิ่มทุนใหม่กว่า 2 หมื่นล้านหุ้น ดึงกลุ่ม"ไพร์ม โรด"เข้ามาถือหุ้นใหญ่ 87.45% หันทำธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ขณะที่ขายธุรกิจอาหาร และอสังหาริมทรัพย์ โดยคาดว่าการทำธุรกรรมรับโอนกิจการดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 30 เม.ย.61
FC แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ (21 พ.ย.) อนุมัติให้ลดทุนจดทะเบียนโดยตัดหุ้นที่ยังไม่ได้นำออกจำหน่าย และให้โอนทุนสำรองตามกฎหมายจำนวน 2.66 ล้านบาท และจำนวนสุทธิของส่วนเกินมูลค่าหุ้นและส่วนต่ำกว่ามูลค่าหุ้น จำนวน 322.89 ล้านบาท เพื่อชดเชยผลขาดทุนสะสมของบริษัท ซึ่งจะยังเหลือผลขาดทุนสะสมจำนวน 853.08 ล้านบาท
พร้อมอนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 2.35 หมื่นล้านบาท จากเดิมที่ 2.77 พันล้านบาท โดยออกหุ้นใหม่ 2.07 หมื่นล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 1 บาท เสนอขายจำนวน 1.49 หมื่นล้านหุ้น ให้กับบุคคลในวงจำกัด (PP) ในราคาหุ้นละ 0.27 บาท และส่วนที่เหลือใช้รองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ (วอร์แรนต์) ที่ออกใหม่ต่อผู้ถือหุ้น
โดยผู้ที่ใช้สิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกใหม่ของบริษัทที่เสนอขายต่อเพื่อรองรับวอร์แรนต์ที่ออกใหม่ต่อผู้ถือหุ้นเดิม โดยผู้ที่ใช้สิทธิวอร์แรนต์อาจไม่ใช่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น (Warrant RO) จำนวน 5.86 พันล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 1 บาท
สำหรับการขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับ PP เพื่อใช้ชำระค่าตอบแทนให้แก่ บริษัทที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่ที่ถือหุ้นโดยบริษัท ไพร์ม โรด แคปปิตอล จำกัด (PRC) นายสมประสงค์ ปัญจะลักษณ์ และนายสุรเชษฐ์ ชัยปัทมานนท์ และ บริษัทจะจัดตั้งขึ้นใหม่ที่ถือหุ้นโดยบริษัท ไพร์ม โรด เทค จำกัด (PRT) ตามแผนการรวมธุรกิจของบริษัท โดยการรับโอนกิจการทั้งหมด (EBT) รวมจำนวนหุ้นเพิ่มทุนที่จัดสรรให้ PP ดังกล่าวจำนวน 1.49 หมื่นล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 0.27 บาท รวมเป็นมูลค่าไม่เกิน 4.02 พันล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ราคาเสนอขายอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยขึ้นอยู่กับผลการตรวจสอบสถานะของกิจการของบริษัท โดยเป็นไปตามเงื่อนไขและข้อตกลงตามที่จะได้ระบุไว้ในสัญญาจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนแบบมีเงื่อนไขบังคับก่อน (Share Subscription Agreement) ระหว่างบริษัท และ PRT และ PRC นายสมประสงค์ และนายสุรเชษฐ์ (สัญญาจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน) ซึ่งที่ประชุมจะได้อนุมัติการเข้าลงนามในสัญญาจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวต่อไป
ในการนี้บริษัทใหม่ที่ถือหุ้นโดย PRC นายสมประสงค์ และนายสุรเชษฐ์ จะนำหุ้นของบริษัทจำกัดที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่อีกบริษัทซึ่งเป็นบริษัทที่ถือหุ้นในบริษัท ไพร์ม โรด กรุ๊ป จำกัด (PRG) มาชำระเป็นค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท ที่จัดสรรให้แก่ตนแทนการชำระด้วยเงินสด (Pay in Kind) และ บริษัทใหม่ที่ถือหุ้นโดย PRT จะนำหุ้นของบริษัทใหม่อีกบริษัทซึ่งเป็นบริษัทที่จะรับโอนหุ้นในบริษัทที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนทั้งหมดจาก PRT มาชำระเป็นค่าหุ้นเพิ่มทุน PP แทนการชำระด้วยเงินสด
หลังการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทนั้น PRC นายสมประสงค์ นายสุรเชษฐ์ และ PRT จะมีสถานะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท โดยถือหุ้นคิดเป็นประมาณ 87.45% ดังนั้น จึงมีหน้าที่ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพยทั้งหมดของบริษัท (Mandatory Tender Offer) ที่ราคาเสนอซื้อ 0.27 บาทต่อหุ้น
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทอนุมัติให้เสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อพิจารณาอนุมัติแผนการรวมธุรกิจ โดยจะรับโอนกิจการทั้งหมด จะประกอบด้วยทรัพย์สินและหนี้สินทั้งปวงของ บริษัทที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่ซึ่งถือหุ้นโดย PRC นายสมประสงค์ และนายสุรเชษฐ์ และบริษัทที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่ที่ถือหุ้นโดย PRT
อย่างไรก็ดี ธุรกรรมการรับโอนกิจการทั้งหมดและจัดสรรหลักทรัพย์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นเมื่อเงื่อนไขบังคับก่อน ตามที่ระบุไว้ในบันทึกข้อตกลงเบื้องต้น (MOU) ระหว่างบริษัท นายกฤษน์ ศรีชวาลา ผู้ถือหุ้นอื่น ๆ และนายสมประสงค์ นายสุรเชษฐ์ ลงวันที่ 28 ก.ย.60 สัญญาจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนแบบมีเงื่อนไขบังคับก่อน (Shares Subscription Agreement) และสัญญารับโอนกิจการ (Entire Business Transfer Agreement) เสร็จสมบูรณ์ โดยเบื้องต้นคาดว่า กระบวนการรับโอนกิจการ จะสามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 เม.ย.61
สำหรับบริษัท ไพร์ม โรด กรุ๊ป จำกัด (PRG) เป็น Holding Company ที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนทั้งในและต่างประเทศ ที่ดำเนินการผลิตแล้วและอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการ รวมถึงอยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) มีกำลังผลิตไฟฟ้ารวม 109.23 เมกะวัตต์ (MW)
ขณะที่บริษัทจำกัดที่จัดตั้งขึ้นใหม่ที่ถือหุ้นโดย PRT เป็น Holding Company ที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ทั้งในและต่างประเทศ ที่ดำเนินการผลิตแล้วและอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการ รวมถึงอยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) มีโครงการที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว จำนวน 10 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวมทั้งสิ้น 91.663 เมกะวัตต์
พร้อมกันนี้ยังอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อพิจารณาขายเงินลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วม ได้แก่ บริษัท เอฟโวลูชั่น ฟู้ดส์ (ประเทศไทย) จำกัด ,บริษัท อันดามัน บีช เรสซิเดนซ์ จำกัด และบริษัท พังงา โฮเต็ล จำกัด โดยจะจำหน่ายให้แก่บุคคลภายนอกที่สนใจจะเข้าซื้อ แต่หากไม่สามารถขายได้ นายกฤษน์ ศรีชวาลา ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่และเป็นกรรมการของบริษัทจะเข้ามาซื้อเงินลงทุนในครั้งนี้
ทั้งนี้ ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นกับบริษัทภายหลังการทำธุรกรรมรับโอนกิจการ และการขายเงินลงทุนของบริษัทย่อยและบริษัทร่วมดังกล่าวนั้น เนื่องจากธุรกิจปัจจุบันของบริษัท ในส่วนของการดำเนินการร้านอาหาร และการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัย มีการแข่งขันที่สูงขึ้น บริษัทจึงมีแผนในการเข้าดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายพลังงานหมุนเวียน โดยการลงทุนในโครงการที่มีศักยภาพในการพัฒนามีอัตราผลตอบแทนที่เหมาะสมและมีความเสี่ยงที่ยอมรับได้
สำหรับเงินที่ได้จะนำไปกันสำรองไว้เพื่อไถ่ถอนหุ้นกู้ของบริษัทที่จะครบกำหนดในเดือนพ.ค.61 ตามที่กำหนดไว้ในสัญญาจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนและสัญญาระหว่างกัน รวมทั้งใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของกิจการ นอกจากนี้ การจำหน่ายเงินลงทุนในธุรกิจที่ประสบปัญหาทางด้านการดำเนินธุรกิจและปัญหาทางด้านการเงิน จะช่วยให้ผลประกอบการของบริษัทดีขึ้น โดยไม่ต้องรับรู้ผลขาดทุนในบริษัทต่าง ๆ เหล่านั้นอีกต่อไป รวมทั้ง สามารถนำทรัพยากรของบริษัทที่ปัจจุบันถูกนำไปใช้ในธุรกิจที่ประสบปัญหาดังกล่าวไปใช้ในการดำเนินโครงการ หรือธุรกิจใหม่ที่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่บริษัทได้มากกว่าธุรกิจเดิม เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้นต่อไป
บริษัทระบุด้วยว่าสำหรับวอร์แรนต์ที่จะออกใหม่เป็นรุ่นที่ 5 หรือ FC-W5 จำนวนไม่เกิน 2.84 พันล้านหน่วย อายุ 3 ปี ให้ฟรีแก่ผู้ถือหุ้นเดิมสัดส่วน 6 หุ้นเดิมต่อ 1 วอร์แรนต์ อัตราการใช้สิทธิ 1 วอร์แรนต์ ต่อ 1.065 หุ้น ที่ราคาใช้สิทธิ 1.408 บาท/หุ้น และวอร์แรนต์ รุ่นที่ 6 หรือ FC-W6 จำนวนไม่เกิน 2.84 พันล้านหน่วย อายุไม่เกิน 3 ปี ให้ฟรีแก่ผู้ถือหุ้นเดิมสัดส่วน 6 หุ้นเดิมต่อ 1 วอร์แรนต์ อัตราการใช้สิทธิ 1 วอร์แรนต์ ต่อ 1 หุ้นใหม่ ที่ราคาใช้สิทธิ 2 บาท/หุ้น โดยวันที่ออกวอร์แรนต์ทั้งสองชุด จะประกาศในภายหลัง โดยให้คณะกรรมการบริษัท หรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริษัทเป็นผู้พิจารณากำหนดต่อไป
ทั้งนี้ กำหนดประชมวิสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าว ในวันที่ 27 ก.พ.61