บมจ.สแกน อินเตอร์ (SCN) แจ้งว่ากลุ่มบริษัทเตรียมจะลงทุน 96 ล้านบาท เพื่อเพิ่มสถานีบริการน้ำมันในสถานีบริการก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) จำนวน 3 แห่ง พร้อมกับทำสัญญาซื้อขายน้ำมันเชื้อเพลิงภายใต้เครื่องหมายการค้า"บางจาก"กับบมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) เพื่อรองรับการให้บริการตามความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ในสถานีบริการเอ็นจีวี
ทั้งนี้ บริษัทย่อยจำนวน 3 บริษัท ได้แก่ น้ำพอง เอ็นจีวี 2558 จำกัด (NPS) ,บริษัท เอมมี่ เอ็นจีวี จำกัด (AIM) และบริษัท เก้าก้อง ปิโตรเลียม จำกัด (KKP) ได้รับสัญญาแต่งตั้งผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมัน และสัญญาซื้อขายน้ำมันเชื้อภายใต้เครื่องหมายการค้า"บางจาก" จำนวน 3 สถานี ได้แก่ สถานีบริการน้ำมันบางจาก-บริษัท น้ำพอง เอ็นจีวี 2558 จำกัด ในอ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ,สถานีบริการน้ำมันบางจาก-บริษัท เอมมี่ เอ็นจีวี จำกัด อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี และสถานีบริการน้ำมันบางจาก-บริษัท เก้าก้อง ปิโตรเลียม จำกัด อ.พนานิคม (บ้านค่าย) จ.ระยอง
การเข้าทำสัญญากับ BCP ครั้งนี้ เป็นการเพิ่มสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงในสถานีบริการเอ็นจีวี โดย NPS ,AIM และ KKP จะลงทุนสร้างสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง จำนวน 33 ล้านบาท , 33 ล้านบาท และ 30 ล้านบาท ตามลำดับ รวมจำนวนเงินลงทุนทั้งสิ้น 96 ล้านบาท
เมื่อรวมมูลค่าลงทุนในสถานีบริการเอ็นจีวี และสถานีบริการน้ำมันทั้ง 3 แห่ง ดังกล่าว จะมีมูลค่าลงทุนรวมทั้งสิ้น 216 ล้านบาท โดยสถานีบริการเอ็นจีวี ของ NPS และ AIM อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง มีมูลค่างาน 65 ล้านบาท และ 55 ล้านบาทตามลำดับ เมื่อรวมมูลค่าการลงทุนในสถานีบริการน้ำมันครั้งนี้ จะมีมูลค่างานรวม 98 ล้านบาท และ 88 ล้านบาทตามลำดับ ส่วนสถานีบริการเอ็นจีวี ของ KKP เป็นสถานีที่มีการดำเนินงานอยู่แล้ว จะลงทุนเพิ่มอีก 30 ล้านบาท เพื่อสร้างสถานีบริการน้ำมันเพิ่มเติมตามสัญญาที่ได้รับในครั้งนี้
ปัจจุบันบริษัทมีสถานีบริการเอ็นจีวี ที่อยู่ระหว่างก่อสร้างรวมทั้งสิ้น 6 โครงการ ซึ่งมีมูลค่าการลงทุนสถานีบริการเอ็นจีวี รวม 538.22 ล้านบาท และเมื่อรวมมูลค่าการลงทุนก่อสร้างสถานีบริการน้ำมันในพื้นที่สถานีบริการเอ็นจีวีดังกล่าว อีกจำนวน 96 ล้านบาท จะมีมูลค่าการลงทุนรวมทั้งสิ้น 634.22 ล้านบาท
นายฤทธี กิจพิพิธ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ของ SCN กล่าวว่า สำหรับการเซ็นสัญญาครั้งนี้ จะทำให้สถานีบริการของบริษัททั้ง 3 แห่ง จะเพิ่มจุดจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงภายใต้เครื่องหมายการค้า "บางจาก" เข้ามาให้บริการเพิ่มเติม ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจก๊าซธรรมชาติเอ็นจีวี สำหรับยานยนต์ไปสู่การให้บริการน้ำมันเชื้อเพลิงควบคู่กันไป จากปัจจุบันที่สถานีบริการก๊าซธรรมชาติเอ็นจีวี สำหรับยานยนต์ที่จ.ขอนแก่น มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 60,000 กิโลกกรัม/วัน ,จ.ปราจีนบุรีมีกำลังการผลิต 40,000 กิโลกรัม/วัน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จทันภายในปีนี้ ส่วนสถานีที่จ.ระยอง มีกำลังการผลิตก๊าซธรรมชาติเอ็นจีวีสำหรับยานยนต์ อยู่ที่ 75,000 กิโลกรัม/วัน
ทั้งนี้ บริษัทจะใช้เงินลงทุนเพื่อก่อสร้างสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง รวมทั้งสิ้น 96 ล้านบาท เพื่อรองรับการให้บริการดังกล่าว รวมถึงการเปิดให้บริการพื้นที่ค้าปลีกเพื่อดึงร้านค้าชั้นนำ เข้ามาให้บริการภายในสถานีบริการทั้ง 3 แห่งอีกด้วย ทำให้มีรายได้จากการให้เช่าพื้นที่ภายในสถานีก๊าซธรรมชาติ รวมถึงช่วยดึงลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นอีกด้วย
“การเซ็นสัญญากับ บางจาก คอร์ปอเรชั่น ในครั้งนี้ จะเข้ามาช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ธุรกิจสถานีก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ของเราให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น และจะศึกษาความเป็นไปได้ในการนำแบรนด์น้ำมันบางจากเข้าไปเสริมในสถานีบริการก๊าซของเรา รวมถึงขยายจุดให้บริการก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ในสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงของ"‘บางจาก"เพิ่มเติมในอนาคตอีกด้วย"นายฤทธี กล่าว
ปัจจุบัน บริษัทมีสถานีก๊าซธรรมชาติเอ็นจีวี สำหรับยานยนต์ที่ให้บริการแล้วจำนวน 7 แห่ง กำลังการผลิตรวม 290,000 กิโลกรัม/วัน และอยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างอีก 5 แห่ง รวมกำลังการผลิต 260,000 กิโลกรัม/วัน ซึ่งคาดว่าจะทยอยแล้วเสร็จได้ภายในปีนี้และบางส่วนจะไปเปิดให้บริการได้ภายในต้นปี 61 นี้ และล่าสุด บริษัทยังได้สัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติตามค่าความร้อนกับบมจ.ปตท. (PTT) เพิ่มเติมอีก 1 สัญญา เพื่อดำเนินการก่อสร้างสถานีก๊าซธรรมชาติเอ็นจีวี สำหรับยานยนต์ที่จ.ชัยนาท กำลังการผลิต 40,000 กิโลกรัม/วัน ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทมีสถานีก๊าซธรรมชาติเอ็นจีวี ที่เปิดให้ดำเนินการแล้วรวมกำลังที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างรวม 13 แห่ง ที่จะช่วยสนับสนุนการเติบโตที่ดีในอนาคต