บมจ.ไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (TLUXE) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ (13 ธ.ค.) อนุมัติให้เข้าทำรายการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ (Geothermal Energy) ในประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งสิ้น 9 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตรวม 1,125กิโลวัตต์ (KW) ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองเบบปุ จังหวัดโออิตะ ประเทศญี่ปุ่น โดยมีมูลค่ารวม 2,700 ล้านเยน หรือประมาณ 786.32 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ ในเดือนเม.ย.61
การเข้าลงทุนดังกล่าวเพื่อรักษาโอกาสทางธุรกิจ และเพื่อให้บริษัทได้รับประโยชน์จากราคาขายไฟในอัตราสูงสุดตามกฎเกณฑ์ของกระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรม (Ministry of Economy, Trade and Industry:METI)
ทั้งนี้ เมื่อรวมกับโครงการเดิมของ บริษัท พีพีเอสเอ็น จำกัด จำนวน 3 โรง, บริษัท ซูโม่ พาวเวอร์ จำกัด จำนวน 1 โรง, บริษัท เอส เอ็น เอส พาวเวอร์ จำกัด จำนวน 1 โรง และ 5 บริษัท รวมจำนวน 10 โรง ได้แก่ Fino Binary Power Plant Limited Liability Company , NIS Binary Power Plant Limited Liability Company , Beppu Tsurumi Onsen Geothermal Power Station No.1 Liaison Company , Dual Energy Binary - Power Plant No.1 Limited Liability Company , Lena Power Station No.1 Limited Liability Company จะทำให้บริษัทมีทั้งหมดจำนวน 24 โครงการ หรือกำลังการผลิตเทียบเท่ากับ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 24 เมกะวัตต์ (MW)
การเข้าซื้อโครงการโรงไฟฟ้าในแต่ละครั้งนั้นขึ้นอยู่กับโอกาสที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงเวลา ไม่ได้เป็นการทยอยซื้อแต่อย่างใด นอกจากนี้โครงการโรงไฟฟ้าที่ได้มาในแต่ละครั้งไม่ได้เป็นโครงการเดียวกัน และการดำเนินการโรงไฟฟ้าที่ผ่านมาเป็นการขายไฟฟ้าที่ค่อนข้างมีเสถียรภาพกล่าวคือสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง คณะกรรมการได้เล็งเห็นประสิทธิภาพของโรงไฟฟ้าดังกล่าวจึงมีมติอนุมัติลงทุนเพิ่มในโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้ภิภพครั้งนี้ และคาดว่าจะมีการทำสัญญาซื้อขายภายในไตรมาสที่ 1/61
สำหรับแหล่งเงินลงทุนในครั้งนี้ มาจากเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และ/หรือเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ และ/หรือกระแสเงินสดของบริษัท ส่วนผลกระทบต่ออัตราส่วน DE-Ratio จากไตรมาส 3/60 คือ 1.56 เท่า คาดว่าจะสูงขึ้นอีก 0.45 เท่า เป็น 2.01 จากการกู้ยืมเงินเพื่อลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพทั้ง 9 โครงการใหม่ ซึ่งเงื่อนไขของสินเชื่อดังกล่าว ไม่มีข้อจำกัดที่จะกระทบกับผู้ถือหุ้น ทั้งนี้แหล่งที่มาของเงินทุนใหม่ครั้งนี้เป็นแหล่งเงินทุนต่างหาก จากโครงการโรงไฟฟ้าโครงการเดิม
การลงทุนครั้งนี้จะทำให้บริษัทสามารถขยายธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงและเพิ่มความมั่นคงของรายได้ อีกทั้งยังเป็นการลดความเสี่ยงจากการพึ่งพารายได้จากการประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ความล่าช้าที่เกิดขึ้นเนื่องจากโรงไฟฟ้าโครงการเดิม ทำให้บริษัทมีนโยบายที่จะซื้อโรงไฟฟ้าที่พร้อมเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ดังนั้น การเข้าซื้อโรงไฟฟ้าเพิ่มจำนวน 9 โครงการนี้ สามารถ COD ได้ภายในเดือนเม.ย.61 ทำให้บริษัทสามารถรับรู้รายได้ทันที ความล่าช้าจากการไม่สามารถขายไฟได้ตามแผนที่กำหนดไว้จะไม่มีการชดเชยใด ๆ จากผู้ซื้อและผู้ขายไฟ อย่างไรก็ตาม บริษัทกำลังเร่งให้โรงไฟฟ้าโครงการเดิมมีการ COD อย่างเร็วที่สุด