นายทัตซึยะ โคโนชิตะ ประธานกรรมการ บมจ.กรุ๊ปลีส (GL) กล่าวถึงสถานการณ์ปัจจุบันเกี่ยวกับการแสดงความประสงค์ยกเลิกการลงทุนของ J Trust Asia Pte. Ltd. (JTA) ในหุ้นกู้แปลงสภาพของบบริษัทฯ จำนวน 180,000,000 เหรียญสหรัฐ และการดำเนินการทางกฎหมายกับบริษัท และบุคคลอื่นๆ ในประเทศไทย ประเทศสิงคโปร์ และเกาะบริติช เวอร์จินว่า การดำเนินการทางกฎหมายของ JTA กับบริษัททั้งหมด ไม่ได้มีผลทำให้การประกอบธุรกิจของบริษัทจะต้องหยุดชะงักแต่ประการใด บริษัทยังสามารถดำเนินธุรกิจการค้าได้ตามปกติ ตลอดจนกระบวนการทางกฎหมายเหล่านั่นยังอยู่ในระหว่างช่วงเริ่มต้น โดยที่ศาลยังมิได้มีคำวินิจฉัยในเนื้อหาของข้อพิพาทแต่อย่างใด
อนึ่ง เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 61 JTA ได้ยื่นฟ้องนายมิทซึจิ โคโนชิตะ บริษัท และกรรมการบริษัทจำนวน 3 ท่าน เป็นจำเลยต่อศาลแพ่ง เป็นคดีแพ่งหมายเลขดำที่ พ. 83/2561 ในข้อหาละเมิด บอกล้างโมฆียกรรม และเรียกค่าเสียหาย เพื่อเรียกร้องให้จำเลยทั้งหมดชำระเงินค่าเสียหายให้แก่ JTA โดยมีกำหนดวันนัดพิจารณาครั้งแรก (วันนัดชี้สองสถาน) ในวันที่ 23 เม.ย.561 เวลา 09.00 น.
ทั้งนี้ บริษัทมีความเชื่อมั่นว่าบริษัทจะสามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงเพื่อหักล้างข้อกล่าวอ้างทั้งหมดของ JTA ในกระบวนการทางกฎหมายเหล่านั้นได้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม กรณีที่ JTA ได้ดำเนินการยื่นฟ้องบริษัท และกรรมการที่เกี่ยวข้องเป็นคดีแพ่งเพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย และได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทต่อศาล รวมทั้งได้ทำการแจ้งความร้องทุกข์ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษและกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจเพื่อดำเนินคดีต่อบริษัท และนายมิทซึจิ โคโนชิตะ นั้น
บริษัทขอชี้แจงว่า ปัจจุบันบริษัทยังไม่ได้รับหมายเรียก สำเนาคำฟ้อง และคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทจากทางศาล รวมทั้ง บริษัทเองก็ยังไม่ได้รับการติดต่อใดๆ จากศาล กรมสอบสวนคดีพิเศษ และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กรณีบริษัทจึงไม่ทราบถึงรายละเอียดที่ถูกต้องและชัดเจนเกี่ยวกับการดำเนินทางกฎหมายเหล่านั้น
อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานับตั้งแต่บริษัทเข้าทำสัญญาหุ้นกู้แปลงสภาพกับ JTA บริษัทได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของสัญญาหุ้นกู้แปลงสภาพครบถ้วนทุกประการอย่างเคร่งครัดตลอดมา บริษัทไม่เคยกระทำการใดๆ อันเป็นการผิดข้อกำหนดและเงื่อนไขของสัญญาหุ้นกู้แปลงสภาพ หรือกระทำการใดๆ อันเป็นการละเมิดต่อ JTA
นอกจากนั้น บริษัทไม่เคยผิดนัดชำระหนี้ต่อเจ้าหนี้รายอื่นๆ ของบริษัทอีกด้วย ในการนี้เองบริษัทจะดำเนินการชี้แจงกับเจ้าหนี้ทางการเงินอื่นๆ ที่สำคัญเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน และเป็นการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีในทางธุรกิจระหว่างบริษัทและเจ้าหนี้ต่อไป
บริษัทขอยืนยันว่า ณ ปัจจุบันนี้ บริษัทไม่ได้มีสถานะเป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัว อนึ่ง ตามงบแสดงฐานะทางการเงินของบริษัทล่าสุด ณ วันที3 30 กันยายน 2560 ที่เปิดเผยต่อสาธารณชน มูลค่าสินทรัพย์รวมทั้งหมดของบริษัทก็มีมากกว่าจำนวนหนี้สิน รวมทั้งหมดของบริษัท รวมทั้งการดำเนินธุรกิจของบริษัทก็มิได้ประสบปัญหาทางการเงินหรือขาดสภาพคล่องแต่อย่างใด
ในทางตรงกันข้าม ผลประกอบการจากการดำเนินธุรกิจของบริษัทก็อยู่ในระดับที่ดีอีกด้วย กรณีจึงยังไม่เข้าหลักเกณฑ์การขอฟื้นฟูกิจการตามกฎหมายล้มละลาย และไม่มีเหตุผลหรือความจำเป็นใดที่บริษัทจะต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ ทั้งนี้ ด้วยฐานะทางการเงินของบริษัท ณ ปัจจุบัน ประกอบกับข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในการนี้บริษัทจะร่วมปรึกษาหารือกับที่ปรึกษากฎหมาย เพื่อพิจารณาดำเนินการทางกฎหมายที่จำเป็นและเหมาะสมแก่กรณีต่อไป
ส่วนการการดำเนินการทางกฎหมายในประเทศสิงคโปร์ ปัจจุบัน Group Lease Holdings Pte. Ltd. (GLH) ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์ที่เป็นบริษัทลูกของบริษัทนายมิทซึจิ โคโนชิตะ และ Cougar Pacific Pte. Ltd (ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์) อยู่ในระหว่างการจัดเตรียมคำให้การต่อสู้คดี คำร้องขอเพิกถอนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว และยื่นต่อศาลแห่งประเทศสิงคโปร์ต่อไป