บมจ.บัตรกรุงไทย (KTC) เปิดเผยว่า บริษัทได้วางแนวทางดำเนินงานสำหรับปี 61 ด้วยแผนขยายตัวของปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรรวมที่ไม่ต่ำกว่า 15% พอร์ตลูกหนี้ขยายตัวไม่ต่ำกว่า 10% และรักษาระดับของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ให้อยู่ในระดับเดียวกันกับปี 60 ดังนั้น บริษัทคาดว่าจะสามารถทำกำไรในปีนี้จะได้ไม่ต่ำกว่าปี 60
สำหรับปี 60 บริษัทมีกำไรสุทธิ 3,304 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 59 ที่มีกำไรเท่ากับ 2,495 ล้านบาทแม้ว่าในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 60 บริษัทได้รับผลกระทบจากกฏเกณฑ์การปรับลดการคิดอัตราดอกเบี้ยรับของสินเชื่อบัตรเครดิตจาก 20% เป็น 18% เป็นผลให้อัตราขยายตัวของรายได้ดอกเบี้ยรวมปี 60 เท่ากับ 10% ลดลงเมื่อเทียบกับปี 59 ที่ขยายตัว 12% แต่เนื่องด้วยบริษัทยังคงสามารถขยายฐานบัตร เติบโตในยอดลูกหนี้รวม และรายได้ค่าธรรมเนียมยังเพิ่มขึ้น ทำให้รายได้รวมเท่ากับ 19,525 ล้านบาท เพิ่มจาก 17,580 ล้านบาท ในปี 59
ค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่อรายได้รวม ( Cost to Income Ratio) เท่ากับ 36.6% ลดลงจาก 39.3% เมื่อเทียบกับ ณ ช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรของบริษัทสำหรับปี 60 เติบโตสูงกว่าภาพรวมอุตสาหกรรม บริษัทมีอัตราเติบโตของการใช้จ่ายผ่านบัตรที่ 6.9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยในรอบ 11 เดือนปี 60 ปริมาณใช้จ่ายผ่านบัตรของบริษัทขยายตัว 7.4% สูงกว่าอัตราเติบโตของอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ที่ 5.2% และปริมาณซื้อขายผ่านร้านค้าเติบโตที่ 28.9% เป็นมูลค่า 68,805 ล้านบาท ด้วยฐานจำนวนร้านค้าที่เพิ่มขึ้นจาก 29,764 ร้านค้าเป็น 32,875 ร้านค้า
ยอดลูกหนี้รวมขยายตัวที่ 7% จากงวดเดียวกันของปีก่อน หรือมีจำนวน 73,488 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นลูกหนี้บัตรเครดิตรวมเพิ่มจาก 46,196 ล้านบาท เป็น 48,338 ล้านบาท เพิ่ม 5% จากงวดเดียวกันปีก่อน และลูกหนี้สินเชื่อบุคคลรวมจาก 21,959 ล้านบาท เป็น 24,757 ล้านบาท เพิ่ม 13% จากงวดเดียวกันของปีก่อน
ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสิ้นปี 60 เท่ากับ 15.13% สามารถรักษาระดับให้ใกล้เคียงกับปี 59 ที่เคยอยู่ที่ 15.12% เนื่องจากมีผลต่างของค่าเฉลี่ยของอัตราดอกเบี้ยรับสูงขึ้นมากกว่าต้นทุนเงินทุนที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ขณะที่สามารถควบคุมคุณภาพพอร์ตลูกหนี้ดีต่อเนื่อง โดย NPL ลูกหนี้รวมของบริษัทอยู่ที่ 1.32% ลดลงจาก 1.66% ณ สิ้นปี 59