ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เปิดเผยว่า แนวโน้มเศรษฐกิจในปี 61 ธนาคารคาดว่าเศรษฐกิจยังคงขยายตัวต่อเนื่อง และครอบคลุมทุกภาคส่วน โดยเศรษฐกิจจะขยายตัวที่ร้อยละ 4.0 มีปัจจัยขับเคลื่อนมาจากการขยายตัวของภาคส่งออกและภาคการท่องเที่ยว และแผนเร่งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ ทั้งนี้ ด้วยสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเติบโต ประกอบกับการดำเนินกลยุทธ์ภายใต้แผนธุรกิจระยะกลางฉบับปัจจุบัน (ปี 61-63) ส่งผลให้กรุงศรีตั้งเป้าการเติบโตของสินเชื่อในปี 61 อยู่ที่ร้อยละ 6-8
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 60 BAY และบริษัทในเครือมีกำไรสุทธิจำนวน 2.32 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.4 จากปี 59 และจำนวนสินทรัพย์สูงกว่าระดับ 2.0 ล้านล้านบาท โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิจากการเติบโตของเงินให้สินเชื่อ และการเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ
ทั้งนี้ เงินให้สินเชื่อ เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 หรือเพิ่มขึ้นจำนวน 1.01 แสนล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 59 มีปัจจัยขับเคลื่อนหลักมาจากสินเชื่อเพื่อรายย่อยที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.8 โดยครอบคลุมทั้งสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ขณะที่สินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดใหญ่และสินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.3 และร้อยละ 2.4 ตามลำดับ
ด้านเงินรับฝาก เพิ่มขึ้นร้อยละ 19 หรือเพิ่มขึ้นจำนวน 2.1 แสนล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2559 สะท้อนความพร้อมของสภาพคล่องในการรองรับความต้องการสินเชื่อที่จะเพิ่มขึ้นในระยะต่อไป ขณะที่มีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) อยู่ที่ร้อยละ 3.74 ซึ่งเป็นระดับเดียวกับปี 59
รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.3 จากปี 59 ปัจจัยขับเคลื่อนมาจากค่าธรรมเนียมธุรกิจบัตร ค่าธรรมเนียมธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง กองทุนและธุรกิจหลักทรัพย์ และค่าธรรมเนียมธุรกิจเช่าซื้อ รวมถึงค่าธรรมเนียมจากธุรกรรมเพื่อค้าและปริวรรตเงินตราต่างประเทศ และกำไรจากเงินลงทุน ด้านอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ อยู่ที่ร้อยละ 48 ปรับขึ้นจากร้อยละ 47.1 ในปี 59
สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ปรับตัวดีขึ้นจากร้อยละ 2.21 ในปี 59 มาอยู่ที่ร้อยละ 2.05 ในปี 60 ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดหลังวิกฤตเศรษฐกิจเอเชีย ขณะที่อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ อยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ร้อยละ 148.4 และอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง อยู่ที่ร้อยละ 15.65
"ปี 60 เป็นปีที่กรุงศรีดำเนินงานสำเร็จตามแผนธุรกิจระยะกลางที่ครอบคลุมปี 58-60 ด้วยจำนวนสินทรัพย์สูงกว่าระดับ 2 ล้านล้านบาท และมีผลประกอบการที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง สำหรับปี 60 นั้น เงินให้สินเชื่อเติบโตร้อยละ 7 ขณะที่ผลกำไรสุทธิสูงถึง 2.32 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ การดำเนินงานภายใต้การบริหารความเสี่ยงอย่างระมัดระวังส่งผลให้มีคุณภาพสินทรัพย์ที่แข็งแกร่ง โดยสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ปรับลดลงมาที่ร้อยละ 2.05 ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดหลังวิกฤตเศรษฐกิจเอเชีย"นายโนริอากิ โกโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ BAY กล่าว
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560 กรุงศรีซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับห้าของไทย มีสินเชื่อรวม 1.55 ล้านล้านบาท เงินรับฝาก 1.32 ล้านล้านบาท และสินทรัพย์รวม 2.09 ล้านล้านบาท ขณะที่เงินกองทุนของธนาคารอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 2.19 แสนล้านบาทหรือเทียบเท่าร้อยละ 15.65 ของสินทรัพย์เสี่ยง โดยเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นของเจ้าของคิดเป็นร้อยละ 11.97