บมจ.เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ (EARTH) แจ้งว่าตามที่บริษัท โดยบริษัท อีวาย คอร์ปอเรท แอดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด ซึ่งเป็นผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการ ได้แจ้งรายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ฯเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2561 ว่า มีเจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดรวม 2,433 ราย เป็นเงินรวมประมาณ 152,518 ล้านบาทนั้น พบว่าหนี้ที่ยื่นคำขอรับชำระหนี้มิใช่ภาระหนี้แต่เป็นสิทธิของผู้ค้ำประกันในฐานะเจ้าหนี้ลำดับสอง ใช้สิทธิยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลายพุทธศักราช 2475 รวม 6 ราย ประมาณ 123,472 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในกระบวนการฟื้นฟูกิจการเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ จะต้องพิจารณาตรวจสอบภาระหนี้ดังกล่าว ถ้าหากสถาบันการเงินซึ่งเป็นเจ้าหนี้ลำดับแรกได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้แล้ว เจ้าหนี้ผู้ค้ำประกันทั้ง 6 รายก็จะไม่มีสิทธิได้รับชำระหนี้ดังกล่าวแต่อย่างใด
อนึ่ง หนี้ที่เจ้าหนี้ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ดังกล่าว ประกอบด้วย หนี้สถาบันการเงิน หนี้ตั๋วแลกเงิน หนี้หุ้นกู้ หนี้ที่เกิดจากการเข้าค้ำประกันการชำระหนี้ของบริษัท ที่มีต่อสถาบันการเงิน หนี้ค่าเสียหาย และหนี้การค้าอื่น ๆ โดยที่ภาระหนี้ของเจ้าหนี้หลายรายที่ขอรับชำระหนี้ รวมทั้งเจ้าหนี้ผู้ค้ำประกันดังกล่าวมิได้ปรากฎอยู่ในบัญชีและงบการเงินของบริษัท
ผู้ทำแผนจึงได้ยื่นคำโต้แย้งคำคัดค้านคำขอรับชำระหนี้ดังกล่าว โดยเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะดำเนินการตรวจสอบรายละเอียดคำขอชำระหนี้ดังกล่าว รวมทั้งเอกสารประกอบที่เกี่ยวข้อง โดยในกรณีที่จำนวนภาระหนี้ที่เจ้าหนี้ยื่นขอชำระหนี้มานั้นไม่ตรงกับจำนวนภาระหนี้ที่บริษัทบันทึกไว้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะพิจารณาเอกสารต่าง ๆ และมีคำสั่งว่าภาระหนี้นั้น ๆ ควรได้รับชำระหนี้หรือไม่ เป็นจำนวนเท่าใด ส่วนการที่เจ้าหนี้ดังกล่าวจะได้รับชำระหนี้เท่าใด และด้วยวิธีการใดนั้นจะเป็นไปตามข้อกำหนดของแผนฟื้นฟูกิจการ
ทั้งนี้ ผู้ทำแผนมีระยะเวลาตามกฎหมายในการจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการ 3 เดือนนับแต่วันที่ประกาศโฆษณาคำสั่งตั้งผู้ทำแผนในราชกิจจานุเบกษา (ภายในวันที่ 24 ม.ค.61) และหากยังจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการไม่แล้วเสร็จภายในกำหนด ผู้ทำแผนอาจขอขยายระยะเวลาต่อศาลได้อีก 2 ครั้ง ๆ ละ 1 เดือน ซึ่งหลังจากที่ผู้ทำแผนได้เสนอแผนฟื้นฟูกิจการให้กับเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แล้ว เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ก็จะส่งแผนฟื้นฟูกิจการให้กับเจ้านี้ทุกรายที่ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ พร้อมทั้งเรียกประชุมเจ้าหนี้ดังกล่าว เพื่อให้ลงมติว่าจะรับหรือไม่รับแผนฟื้นฟูกิจการ หากเจ้าหนี้มีมติยอมรับแผน เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ก็จะเสนอแผนพื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลางเพื่อพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง และหากศาลได้มีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผนฟื้นฟูกิจการ บุคคลที่ถูกกำหนดไว้ในแผนฟื้นฟูกิจการให้เป็นผู้บริหารแผน ก็จะทำหน้าที่ดำเนินการชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ตามข้อกำหนดของแผนฟื้นฟูกิจการต่อไป