บมจ.แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ (GRAND) จะเข้าซื้อหุ้นบมจ.โรงแรม รอยัลออคิด (ประเทศไทย) (ROH) จากบริษัท สตาร์วูด โฮเต็ล (ประเทศไทย) จำกัด และบมจ.การบินไทย (THAI) รวม 68% คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 2.37 พันล้านบาท พร้อมจะทำคำเสนอซื้อหุ้นส่วนที่เหลือทั้งหมดใน ROH ที่ราคาหุ้นละ 41 บาท โดยการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะช่วยขยายฐานลูกค้า และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจโรงแรมกับรายอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
GRAND แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 5/2560 และ 6/2560 อนุมัติการเข้าลงทุนในหุ้นสามัญของ ROH โดยเป็นการซื้อจากบริษัท สตาร์วูด โฮเต็ล (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 44% ในราคาหุ้นละ 35 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1.44 พันล้านบาท และซื้อจาก THAI จำนวน 24% ที่ราคาหุ้นละ 41 บาท รวมเป็นเงิน 922.5 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าการรับโอนหุ้นและชำระราคาค่าหุ้นดังกล่าวจะเกิดขึ้นภายหลังวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทครั้งที่ 1/2561
พร้อมกับอนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2561 ในวันที่ 29 มี.ค.61 เพื่อพิจารณาอนุมัติการเข้าลงทุนในหุ้น ROH และการทำคำเสนอซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมดของ ROH (Tender Offer) จำนวน 32% ที่ราคาหุ้นละ 41 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้นราว 1.23 พันล้านบาท
ปัจจุบัน ROH ดำเนินธุรกิจหลักในการประกอบกิจการโรงแรมประเภทโรงแรมชั้นหนึ่ง โดยมีห้องพักแขกทั้งสิ้น 726 ห้อง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ โดย ROH ได้ทำสัญญาการดำเนินงานกับบริษัท เชอราตัน โอเวอร์ซีส์ แมนเนจเม็นท์ คอร์ปอเรชั่น แห่งสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ ROH มีเงินลงทุนในบริษัทย่อย 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท ไทย รอยัล ออคิด เรียล เอซเทท จำกัด ซึ่งมีกิจการให้เช่าที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ และบริษัท เชอราตัน รอยัล ออคิด จำกัด ซึ่งไม่ได้ประกอบกิจการ โดย ROH ถือหุ้นอยู่สัดส่วน 99.99% และ 51% ตามลำดับ
ทั้งนี้ ROH มีสินทรัพย์หลักคือโรงแรมรอยัลออคิดเชอราตันโฮเต็ลแอนด์ทาวเวอร์ โดยถือกรรมสิทธิ์บนที่ดินรวมถึงโรงแรมระดับ 4 ดาว ตั้งอยู่ในทำเลที่ตั้งเชิงกลยุทธ์ตามแนวแม่น้ำเจ้าพระยา และจากการที่นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศมีการเติบโตเพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทเห็นว่าการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์ในระยะยาว และช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจโรงแรมกับผู้ประกอบการรายอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในการประกอบธุรกิจให้แก่บริษัท ตลอดจนมีส่วนช่วยขยายฐานลูกค้า
นอกจากนี้ยังจะส่งผลให้สัดส่วนการลงทุนของบริษัทในกลุ่มธุรกิจโรงแรมมีการกระจายตัวมากขึ้นในใจกลางกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งจะทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทมีแนวโน้มที่จะเติบโตและก้าวหน้าต่อไปในอนาคต
สำหรับแหล่งเงินลงทุนที่จะใช้ในการซื้อกิจการครั้งนี้ จะมาจากเงินทุนหมุนเวียนและเงินทุนที่ได้จากการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท รวมถึงเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน