บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) หรือปตท.สผ. แจ้งว่าวันนี้ (31 ม.ค.) ปตท.สผ. และ บริษัท ปตท.สผ. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้ลงนามในสัญญาการโอนสิทธิสัมปทาน (Agreement for the Assignment and Transfer) เพื่อเข้าซื้อสัดส่วนการลงทุนร้อยละ 22.2222 ในโครงการบงกช ซึ่งได้แก่ แปลง B15 แปลง B16 และแปลง B17 จากบริษัท Shell Integrated Gas Thailand Pte. Limited (Shell) และแปลง G12/48 จากบริษัท Thai Energy Company Limited (บริษัทย่อยของ Shell) ด้วยมูลค่าก่อนภาษีประมาณ 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้ การเข้าซื้อสัดส่วนการลงทุนจะเสร็จสมบูรณ์เมื่อบรรลุเงื่อนไขตามที่ระบุไว้ในสัญญาฯ ดังกล่าว โดยคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2561
โครงการบงกช เป็นแหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย โดยมีปริมาณการขายก๊าซธรรมชาติประมาณ 860 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และปริมาณการขายคอนเดนเสทประมาณ 26,000 บาร์เรลต่อวัน ปัจจุบัน ปตท.สผ. ถือสัดส่วนร้อยละ 44.4445 และเป็นผู้ดำเนินการของโครงการดังกล่าว ภายหลังการเข้าซื้อ ปตท.สผ. จะมีสัดส่วนการลงทุนเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 66.6667 ขณะที่บริษัท โททาล ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันชั้นนำจากฝรั่งเศสเป็นผู้ร่วมทุน มีสัดส่วนการลงทุนร้อยละ 33.3333
การเข้าซื้อสัดส่วนในโครงการบงกชนั้น เป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์การเติบโตของ ปตท.สผ. ที่เน้นการแสวงหาสินทรัพย์ที่ผลิตแล้วหรือกำลังจะเริ่มผลิตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ ซึ่งจะสามารถเพิ่มปริมาณการผลิต ปริมาณสำรองปิโตรเลียม และกระแสเงินสดให้กับบริษัทได้ทันที อีกทั้งยังช่วยสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้แก่ประเทศในอนาคตอีกด้วย
นายสมพร ว่องวุฒิพรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ปตท.สผ. กล่าวว่าหลังจากการเข้าซื้อสัดส่วนการลงทุนครั้งนี้ จะทำให้ปริมาณการขายปิโตรเลียมของ ปตท.สผ. เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 35,000 บาร์เรล/วัน
"การเข้าซื้อสัดส่วนในโครงการบงกชเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์การเติบโตของ ปตท.สผ. ซึ่งให้ความสำคัญกับการแสวงหาสินทรัพย์ที่ผลิตแล้วหรือที่กำลังเริ่มผลิตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ ซึ่งจะสามารถเพิ่มปริมาณการผลิตปิโตรเลียม ปริมาณสำรองปิโตรเลียม และกระแสเงินสดให้กับบริษัทได้ทันที"นายสมพร กล่าว
โครงการบงกช นับเป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติสำคัญในการผลิตกระแสไฟฟ้าของประเทศ ช่วยทดแทนการนำเข้า และลดการพึ่งพาพลังงานจากต่างประเทศ ซึ่งก๊าซธรรมชาติที่ผลิตได้จากโครงการบงกช คิดเป็นร้อยละ 30 ของการผลิตก๊าซธรรมชาติที่ผลิตได้ภายในประเทศ
แหล่งบงกชยังเป็นแหล่งก๊าซฯ แห่งแรกที่บริษัทคนไทยเป็นผู้ดำเนินการ โดยกำลังจะครบรอบการผลิต 25 ปีในเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถของคนไทยในการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมได้อย่างมีประสิทธิภาพทัดเทียมบริษัทน้ำมันนานาชาติ
"ปตท.สผ. มุ่งมั่นและเตรียมความพร้อมที่จะเข้าร่วมการประมูล เพื่อเป็นผู้ดำเนินการในโครงการบงกชต่อ หลังสัมปทานหมดอายุในปี 2565 และ 2566 เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานในอนาคตให้กับประเทศไทยต่อไป" นายสมพร กล่าว
ด้านกลุ่มเชลล์ ออกแถลงการณ์ระบุว่า การตัดสินใจขายสินทรัพย์ของเชลล์นี้ เป็นส่วนหนึ่งของการบริหารสัดส่วนการลงทุนโดยรวมของกลุ่มรอยัลดัทช์เชลล์ ที่ต้องการขายสินทรัพย์ที่ไม่ได้เป็นธุรกิจหลัก เพื่อปรับโครงสร้างของบริษัทให้มีความกระชับและปรับตัวได้ง่ายขึ้น การขายสินทรัพย์ครั้งนี้ทำให้เชลล์เข้าใกล้เป้าหมาย 30,00 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา
การดำเนินการในครั้งนี้ไม่มีผลกระทบใด ๆ กับการลงทุนของเชลล์ในประเทศอื่นๆ เชลล์ดำเนินธุรกิจอยู่ในประเทศไทยกว่า 125 ปี โดยดำเนินธุรกิจเติบโตเคียงคู่เศรษฐกิจของประเทศมายาวนาน โดยยังมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจต่อในธุรกิจค้าปลีกน้ำมันเชื้อเพลิง รวมถึงธุรกิจก๊าซธรรมชาติเหลวให้เติบโตพร้อมไปกับการพัฒนาของประเทศอย่างยั่งยืนสืบไป โดยเชลล์ยังคงมีสิทธิสัมปทาน แปลงหมายเลข 7 แปลงหมายเลข 8 และแปลงหมายเลข 9 ของแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในพื้นที่ทับซ้อนของชายแดนไทย-กัมพูชา