IRPC ตั้งงบลงทุนปี 61-65 รวม 53,279 ลบ.รวมโครงการที่อยู่ระหว่างศึกษา,กำไรปี 60 พุ่ง 17% รับผล GIM สูงแม้กลั่นน้ำมันลด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 14, 2018 10:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) ตั้งงบประมาณสำหรับโครงการลงทุนของบริษัท (รวมโครงการที่อยู่ระหว่างการศึกษา) ระหว่างปี 61-65 มีจำนวน 53,279 ล้านบาท โดยในปี 61 ค่าใช้จ่ายลงทุนสำหรับโครงการลงทุนที่ดำเนินการต่อเนื่องมีจำนวน 1,933 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการเพิ่มมูลค่าเพื่อผลิตภัณฑ์สะอาด (โครงการ UHV) โครงการขยายกำลังการผลิตโพลีโพรพิลี น (โครงการ PPE/PCC) และโครงการ EVEREST

นอกจากนี้ บริษัทมีงบประมาณสำหรับโครงการลงทุนที่อยู่ระหว่างการศึกษาจำนวน 34,793 ล้านบาท โดยการนำวัตถุดิบ หลักจากกระบวนการผลิตภายในของบริษัท มาสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีของบริษัท

(หน่วย:ล้านบาท)

         โครงการลงทุน                2561       2562      2563      2564       2565        รวม
โครงการ UHV และโครงการ PPE/PPC     1,445         -        -         -          -        1,445
โครงการ EVEREST                      488         -        -         -          -          488
ค่าใช้จ่ายซ่อมบำรุงโรงงาน               2,470      2,354     2,425     4,947       2,703    14,899
อื่นๆ                                1,466        116        73       -          -        1,655
             รวม                   5,869      2,470     2,498     4,947       2,703    18,487
โครงการที่อยู่ระหว่างการศึกษา            1,301      4,291     9,747     9,736       9,718    34,793
             รวมทั้งหมด              7,169      6,761    12,245    14,683      12,421    53,279

สำหรับสถานการณ์ปิโตรเลียมในปี 61 คาดว่าราคาน้ำมันดิบดูไบจะปรับเพิ่มขึ้นจากปี 60 และเคลื่อนไหวใน กรอบ 60-65 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการใช้น้ำมันที่มีแนวโน้มขยายตัวที่ 1.3 ล้านบาร์เรล/วัน มาที่ ระดับ 98.9 ล้านบาร์เรล/วัน จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวแข็งแกร่งทั่วโลก และความร่วมมือระหว่างผู้ผลิตกลุ่มประเทศผู้ส่งออก น้ำมัน (โอเปก) และนอกกลุ่มโอเปก ที่ขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตร่วมกันประมาณ 1.8 ล้านบาร์เรล/วัน จากเดิมสิ้น สุดเดือน มี.ค.61 เป็นสิ้นสุดเดือน ธ.ค.61

ส่วนธุรกิจปิโตรเคมีในปี 61 คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ประกอบ กับนโยบายการควบคุมเรื่องสิ่งแวดล้อมของจีน ทำให้มีการลดการใช้ Scarp & Waste plastic รวมทั้งโครงการ One Belt,One Road ของจีน ช่วยสนับสนุนความต้องการใช้เม็ดพลาสติกให้ปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ดีธุรกิจกลุ่มโพลีเอทิลีน ยังคงได้รับ แรงกดดันจากการคาดการณ์กำลังการผลิตใหม่ที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก โดยเฉพาะจากสหรัฐอเมริกา

สำหรับผลการดำเนินงานในปี 60 บริษัทมีกำไรสุทธิ 11,354 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% จากกำไรสุทธิ 9,721 ล้าน บาทในปี 59 โดยมีรายได้จากการขายสุทธิ 197,594 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% จากราคาขายที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ โดยโรงกลั่นมีอัตราการกลั่นทั้งปีอยู่ที่ 1.8 แสนบาร์เรล/วัน คิดเป็นอัตราการใช้กำลังการกลั่น 84% ลดลงจากปีก่อนเพียง 1% เนื่อง จากการหยุดซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ตามแผน ในช่วงไตรมาส 1/60 นอกจากนี้โครงการขยายกำลังการผลิตโพลีโพรพิลีน (PP) ประเภท PPE และ PPC รวม 3 แสนตัน/ปี เริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ในเดือน ก.ย.-ธ.ค.60

บริษัทมีกำไรขั้นต้นจาการผลิตของกลุ่มตามราคาตลาด (Market GIM) ซึ่งไม่รวมผลกระทบจากสต็อกน้ำมัน จำนวน 32,370 ล้านบาท หรือ 14.48 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 4% จากปี 59 เนื่องจากประโยชน์จากการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ของ โครงการ UHV และโครงการ PP ที่เริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์

ขณะที่บริษัทมีกำไรจากสต็อกน้ำมันจำนวน 3,720 ล้านบาท เนื่องจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น แม้ว่าจะมี ผลขาดทุนจากการบริหารความเสี่ยงน้ำมัน (Oil Hedging) 1,452 ล้านบาท ทำให้มีกำไรขั้นต้นทางบัญชี (Accounting GIM) ซึ่งรวมผลกระทบจากสต็อกด้วยนั้น มีจำนวน 34,638 ล้านบาท หรือ 15.49 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 14% จากปีก่อน

บริษัทมีกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย,ภาษี,ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ในปี 60 ที่ระดับ 20,420 ล้านบาท เพิ่มขั้น 17% จากปี 59


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ