(เพิ่มเติม) กลุ่ม TISCO เซ็นสัญญาโอนขายลูกหนี้สินเชื่อส่วนบุคคล-บัตรเครดิตให้"ซิตี้แบงก์"มูลค่า 6.9 พันลบ.คาดแล้วเสร็จภายใน Q4/61

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday March 30, 2018 17:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ทิสโก้ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (TISCO) เปิดเผยว่า ในวันนี้ธนาคารทิสโก้และบริษัท ออล-เวย์ส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในกลุ่มทิสโก้ ซึ่งบริษัทมีสัดส่วนการถือหุ้นในอัตรา 99.99% และ 100% ตามลำดับ ได้ลงนามในสัญญาการโอนขายลูกหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลและธุรกิจบัตรเครดิตให้แก่ธนาคารซิตี้แบงก์ เอ็น.เอ.สาขากรุงเทพ มูลค่าสินทรัพย์โอนขาย ฯ วันที่ 31 ธ.ค.60 อยู่ที่ 6,900 ล้านบาท คาดว่าการซื้อขายจะเสร็จสมบูรณ์ในปี 61

ทั้งนี้ เพื่อการดำเนินธุรกิจตามแนวทางที่สอดคล้องกับกลยุทธ์ระยะยาวของบริษัท ประกอบกับเพื่อให้ลูกค้าได้รับประโยชน์สูงสุด โดยได้รับการบริหารจากผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในตลาด และสามารถใช้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลและบัตรเครดิตได้อย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่ม TISCO จะนำเงินที่ได้รับไปใช้เป็นสภาพคล่องของธนาคารทิสโก้และบริษัท ออล-เวย์ส จำกัด

กระบวนการถ่ายโอนธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลและบัตรเครดิตดังกล่าวคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4 ปีนี้

นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทิสโก้ กล่าวว่า การดำเนินการครั้งนี้เป็นไปตามกลยุทธ์ทางธุรกิจของธนาคารและบริษัท ที่คำนึงถึงการให้บริการที่สามารถตอบสนองลูกค้าให้ได้รับความพึงพอใจสูงสุดภายใต้ภาวะการแข่งขันของตลาดในปัจจุบัน ทั้งนี้ ธนาคารและบริษัท ได้บรรลุข้อตกลงกับธนาคารซิตี้แบงก์ซึ่งเป็นพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญและเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลและบัตรเครดิตในประเทศไทยมายาวนาน การโอนธุรกิจดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนให้ลูกค้าได้รับบริการที่ตอบสนองความต้องการได้อย่างต่อเนื่อง

ธนาคารและบริษัทจะออกหนังสือแจ้งประกาศข้อตกลงการโอนธุรกิจแก่ลูกค้าสินเชื่อบุคคลและบัตรเครดิต และจะมีการแจ้งความคืบหน้าแก่ลูกค้าเป็นระยะในระหว่างการถ่ายโอนธุรกิจ ทั้งนี้ ในระหว่างการเปลี่ยนผ่านธนาคารและบริษัทมุ่งมั่นจะทำงานร่วมกับธนาคารซิตี้แบงก์อย่างใกล้ชิดเพื่อประโยชน์สูงสุดของลูกค้าและดำเนินการให้การถ่ายโอนเป็นไปอย่างราบรื่น

ธุรกิจสินเชื่อบุคคลและบัตรเครดิตดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตธุรกิจลูกค้ารายย่อยอันประกอบ ด้วยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ธุรกิจแบงก์แอสชัวรันส์ เงินฝากรายย่อย บริการธนบดีธนกิจ (Wealth Management) สินเชื่อธุรกิจรายย่อย สินเชื่อบุคคล และ บัตรเครดิต ที่ธนาคารและบริษัทรับโอนมาจากธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) โดยกระบวนการถ่ายโอนธุรกิจทั้งหมดแล้วเสร็จเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

"การตัดสินใจครั้งนี้เกิดจากการทบทวนและวิเคราะห์แนวทางที่เหมาะสม และสอดคล้องกับกลยุทธ์ระยะยาวของทิสโก้ที่มุ่งเน้นการเติบโตในธุรกิจสินเชื่อที่มีหลักประกันที่เรามีความเชี่ยวชาญ โดยคำนึงถึงผลตอบแทนที่เหมาะสมกับความเสี่ยง ประกอบกับเป็นจังหวะที่มีพันธมิตรอย่างธนาคารซิตี้แบงก์ให้ความสนใจ และนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้า โดยลูกค้าจะได้รับสิทธิประโยชน์และบริการที่ต่อเนื่อง จึงเป็นปัจจัยที่เราพิจารณาเห็นว่าเป็นแนวทางที่เหมาะสม"นายศักดิ์ชัย กล่าว

นายศักดิ์ชัย กล่าวว่า ส่วนธุรกิจอื่น ๆ ที่รับโอนจากมาจากสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดได้มีการต่อยอดไปตามแผนงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจ Wealth Management ได้รับความเชื่อมั่นและการตอบรับที่ดีมากจากลูกค้า ด้วยบริการ Open Architecture ทำให้เราสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และต่อยอดการบริการให้แก่ลูกค้าได้ดี ทั้งกองทุนรวมและแบงก์แอสชัวร์รันส์ โดยเรามีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำลูกค้าอย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ ยังมีสินเชื่อบ้านทิสโก้ มอร์เกจเซฟเวอร์ (Mortgage Saver) เป็นผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นตอบโจทย์ให้ลูกค้าเป็นเจ้าของบ้านได้เร็วขึ้น ซึ่งจากนี้ไปก็จะมีแผนการตลาดเชิงรุกในสินเชื่อตัวนี้ นอกเหนือจากสินเชื่อเช่าซื้อและสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ที่มีความเชี่ยวชาญ ในภาพรวมปีนี้ธุรกิจรายย่อยของกลุ่มทิสโก้จะเติบโตได้ตามเป้าหมาย

นางวีระอนงค์ จิระนคร ภู่ตระกูล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบุคคลธนกิจ ธนาคารซิตี้แบงก์ประเทศไทย กล่าวว่า สิ่งสำคัญอันดับแรกสำหรับธุรกิจรายย่อยในประเทศไทยคือการเติบโต การโอนย้ายธุรกิจครั้งนี้เพิ่มโอกาสให้ซิตี้แบงก์ขยายฐานธุรกิจในประเทศไทยมากขึ้น ในฐานะที่เป็นผู้ให้บริการบัตรเครดิตชั้นนำในเอเชีย ทำให้มีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าลูกค้ากลุ่มนี้จะได้รับความพึงพอใจในผลิตภัณฑ์ และสิทธิพิเศษของซิตี้แบงก์ที่ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางในระดับโลก ทั้งสิทธิพิเศษด้านการรับประทานอาหาร ด้านการท่องเที่ยว คะแนนสะสม และสิทธิพิเศษอื่น ๆ อีกมากมายที่มีให้กับลูกค้า

ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซิตี้แบงก์มีลูกค้าบัตรเครดิตกว่า 16 ล้านคน ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีผลการดำเนินงานและการเติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 6 ติดต่อกัน ในปี 2560 รายได้ของธุรกิจบัตรเครดิตของซิตี้แบงก์ในเอเชียเพิ่มขึ้น 10% เป็น 2.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ และมีกำไรสุทธิ 462 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 12% ด้วยความเชี่ยวชาญและความเป็นมืออาชีพของซิตี้แบงก์ ทางบริษัทจึงเล็งเห็นความเหมาะสมและมีความเชื่อมั่นว่าลูกค้าจะได้รับสิทธิประโยชน์และบริการที่ดีและต่อเนื่องจากการโอนธุรกิจในครั้งนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ