บมจ.อี ฟอร์ แอล เอม (EFORL) เตรียมเพิ่มทุน 1.61 หมื่นล้านหุ้น ขายให้กับนักลงทุนในวงจำกัด (PP) จำนวน 5 ราย ที่ราคาหุ้นละ 0.04 บาท ระดมทุนราว 644.33 ล้านบาท ใช้รองรับการดำเนินงานธุรกิจเครื่องมือแพทย์ และธุรกิจความงาม ที่มีแผนการทำโรงพยาบาลศัลยกรรมความงาม โดยมีแผนจะใช้เงินลงทุนส่วนนี้ในช่วงไตรมาส 3/61 โดยภายหลังการเพิ่มทุนครั้งนี้ส่งผลให้นายวิชัย ทองแตง เข้ามาถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 22.68%
EFORL แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา อนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2561 ในวันที่ 21 พ.ค.เพื่อพิจารณาอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 2.81 พันล้านบาท จากเดิมที่ 1.6 พันล้านบาท โดยออกหุ้นเพิ่มทุน 1.61 หมื่นล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.075 บาท เสนอขายให้กับ PP จำนวน 5 ราย ได้แก่ นายวิชัย ทองแตง , นายชาคริต ศึกษากิจ , นายเกรียงไกร เธียรนุกูล , นายชวลิต เศรษฐเมธีกุล และนายเกรียงไกร ฏิระวณิชย์กุล ที่ราคาหุ้นละ 0.04 บาท/หุ้น คิดเป็นมูลค่ารวม 644.33 ล้านบาท
การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่กลุ่มผู้ถือหุ้นในครั้งนี้นักลงทุนทุกรายจะไม่สามารถขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ได้รับจัดสรรในครั้งนี้เป็นระยะเวลา 12 เดือน (Lock-up) นับตั้งแต่วันที่หุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวเริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ
ภายหลังการเพิ่มทุนครั้งนี้จะทำให้นายวิชัย ทองแตง เข้ามาถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 22.68% ,นายชาคริต ศึกษากิจ ถือหุ้น 12.42% ,นายเกรียงไกร เธียรนุกูล ถือหุ้น 7.45% , นายชวลิต เศรษฐเมธีกุล ถือหุ้น 4.97% ,นายศุภชัย วัฒนาสุวิสุทธิ์ ลดสัดส่วนถือหุ้นเหลือ 3.65% จากเดิม 7.30% ,นายโกศล วรฤทธินภา ถือหุ้น 3.21% จากเดิม 6.41% ,นายเกรียงไกร ฏิระวณิชย์กุล ถือหุ้น 2.48% เป็นต้น
สำหรับการเพิ่มทุนครั้งนี้เพื่อเป็นการปรับโครงสร้างทางธุรกิจของบริษัทและกลุ่มบริษัทย่อยทั้งหมดอย่างเป็นระบบ ด้วยการสนับสนุนด้านยุทธศาสตร์จากกลุ่มนักลงทุนใหม่ ซึ่งมีความรู้ประสบการณ์ในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับบริษัทและเป็นผู้ประสบความสาเร็จในธุรกิจดังกล่าวมาแล้ว โดยยังคงมุ่งหวังเพื่อสร้างประสิทธิภาพและประสิทธิผลในธุรกิจเดิมและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเดิมของบริษัทเป็นหลักคือ ธุรกิจเครื่องมือแพทย์ และธุรกิจที่เกี่ยวกับความงาม
โดยบริษัทมีแผนใช้เงินในธุรกิจเครื่องมือแพทย์ เพื่อจะเพิ่มสินค้าใหม่และขยายการเติบโตจากตัวแทนจำหน่ายไปสู่การผลิตเครื่องมือแพทย์บางรายการ โดยคาดว่าจะต้องใช้เงินลงทุนเพื่อเสริมสภาพคล่อง และขยายธุรกิจในส่วนนี้ประมาณ 200 ล้านบาท โดยบริษัทมีแผนจะใช้เงินลงทุนสำหรับการขยายธุรกิจเครื่องมือแพทย์ ภายในไตรมาสที่ 3 ของปี 2561 เป็นต้นไป
ส่วนธุรกิจความงาม บริษัทมีแผนสู่ธุรกิจสถาบันความงามอย่างครบวงจรเต็มรูปแบบ ได้แก่ การทำโรงพยาบาลศัลยกรรมความงาม การสร้างสาขาแบบ One stop shop การปรับปรุงสาขาให้ตรงกับพฤติกรรมผู้บริโภค การเพิ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและสินค้าใหม่ ๆ การขยายสาขาในระบบ Franchise ให้ครอบคลุมในกลุ่มตลาดเป้าหมายมากขึ้น โดยคาดว่าต้องใช้เงินลงทุนและเงินทุนหมุนเวียนในส่วนนี้ ประมาณ 444 ล้านบาท โดยคาดว่าจะใช้เงินทุนในส่วนนี้ภายในไตรมาสที่ 3 ของปี 2561 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ การเพิ่มทุนจะช่วยให้บริษัทมีแหล่งเงินทุนในการเตรียมความพร้อมและเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางด้านการเงินของบริษัท เพื่อให้บริษัทมีความยืดหยุ่นทางการเงินในการดำเนินงานรวมถึงการลงทุนในธุรกิจเกี่ยวกับธุรกิจการแพทย์และธุรกิจความงาม นอกจากนี้นักลงทุนใหม่เป็นผู้มีความรู้มีประสบการณ์ ในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับบริษัทซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพธุรกิจปัจจุบัน ให้มีโอกาสเติบโตขยายต่อไปในอนาคต
อนึ่ง ราคาหุ้น EFORL ปิดตลาดเมื่อวันที่ 5 เม.ย. อยู่ที่หุ้นละ 0.04 บาท