GSTEL เลื่อนประชุมผถห.จาก 23 เม.ย. หลังพบความเสียหายมากจากกรณีกระบวนการยักยอกเศษเหล็กอาจกระทบต่องบฯปี 60

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday April 12, 2018 08:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.จี สตีล (GSTEL) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ (11 เม.ย.) อนุมัติให้เลื่อนการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2561 ที่จะจัดในวันที่ 23 เม.ย.61 ออกไปก่อนจนกว่าผู้สอบบัญชีของบริษัทจะได้ตรวจสอบและแก้ไขข้อมูลและตัวเลขทางบัญชีสำหรับรอบปีบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.60 เสร็จสิ้น ซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นช่วงประมาณภายในเดือนก.ย.61 เนื่องจากพบว่างบการเงินในปี 60 อาจจะถูกกระทบอย่างมีนัยสำคัญ จากกระบวนการยักยอกเศษเหล็กที่มีปริมาณความเสียหายเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา บริษัทได้รับแจ้งความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนคดีอาญา จากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดฯ) เกี่ยวกับการแจ้งความร้องทุกข์ของบริษัท กรณีกระบวนการยักยอกเศษเหล็กว่า จากการสืบสวนสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดฯ พบพฤติกรรมและเบาะแสการกระทำความผิดของกลุ่มคนร้าย และ ณ ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวนเพื่อให้ได้มาซึ่งหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดทั้งกระบวนการ

นอกจากนี้ กองบังคับการปราบปรามกระทำความผิดฯ ยังแจ้งเพิ่มเติมว่า กระบวนการยักยอกเศษเหล็กดังกล่าวมีปริมาณความเสียหายเป็นจำนวนมาก โดยยังไม่สามารถประเมินเป็นราคาหรือน้ำหนักที่ชัดเจนได้ จะต้องรอตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่รวบรวมได้เพิ่มเติมก่อน อีกทั้งคดีมีความยุ่งยาก มีผู้ร่วมกระทำผิดเป็นกระบวนการ หลายคน หลายกลุ่ม มีพยานบุคคลที่รู้เห็นเกี่ยวกับการกระทำความผิดหลายคน ทั้งมีการกระทำความผิดเป็นระยะเวลาติดต่อกันต่างกรรมต่างวาระ และมีเอกสารที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก ทำให้ในการสืบสวนจะต้องใช้เวลาค่อนข้างมาก โดยหากมีความคืบหน้าใด ๆ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดฯจะแจ้งให้ทราบต่อไป

ดังนั้น ฝ่ายบริหารได้นำเรื่องดังกล่าวเข้าหารือกับคณะกรรมการตรวจสอบของบริษัท โดยฝ่ายบริหารเล็งเห็นว่า กระบวนการยักยอกเศษเหล็กอาจมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่องบการเงินของบริษัท สำหรับรอบปีบัญชี สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.60 เนื่องจากกระบวนการยักยอกเศษเหล็กดังกล่าวมีปริมาณความเสียหายเป็นจำนวนมาก และจากการพิจารณาโดยคณะกรรมการตรวจสอบของบริษัท มีความเห็นสอดคล้องกันว่า จำนวนความเสียหายที่เกิดจากกรณีกระบวนการยักยอกเศษเหล็กอาจส่งผลกระทบต่อข้อมูลและตัวเลขทางบัญชีของบริษัทในงบการเงินของบริษัท สำหรับรอบปีบัญชี สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.60 อย่างมีนัยสำคัญ

ทำให้คณะกรรมการตรวจสอบมีความเห็นว่า ต้องแจ้งให้ผู้สอบบัญชีของบริษัท ทบทวนและตรวจสอบข้อมูลและตัวเลขทางบัญชีของบริษัทในงบการเงินของบริษัท สำหรับรอบปีบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.60 อีกครั้ง โดยผลกระทบทางข้อมูลและตัวเลขทางบัญชีของบริษัทจะเป็นอย่างไรนั้น จะต้องรอผลการสืบสวนสอบสวนของกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดฯ เป็นสำคัญ

นอกจากนี้คณะกรรมการตรวจสอบ และคณะกรรมการบริษัท มีความเห็นว่า เนื่องจากข้อมูลและตัวเลขทางบัญชีของบริษัท ในงบการเงินของบริษัท สำหรับรอบปีบัญชี สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.60 อาจมีความคลาดเคลื่อน อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ดังกล่าว และเพื่อให้ผู้ถือหุ้นของบริษัทได้รับข้อมูลทางการเงินที่ครบถ้วน และไม่สามารถจัดการรประชุมผู้ถือหุ้นให้พิจารณาอนุมัติงบการเงินของบริษัท ที่ยังมีความไม่แน่นอนและคลาดเคลื่อนของตัวเลขและข้อมูล จึงเห็นว่า มีความจำเป็นที่จะต้องเลื่อนการพิจารณาอนุมัติงบการเงินของบริษัท สำหรับรอบปีบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.60 ออกไปจนกว่าผู้สอบบัญชีของบริษัทจะได้รับข้อมูลจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดฯ เพื่อตรวจสอบและแก้ไขข้อมูลและตัวเลขทางบัญชีของบริษัท

คณะกรรมการบริษัท มีความเห็นว่าการอนุมัติงบการเงินของบริษัท สำหรับรอบปีบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.60 เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2561 ดังนั้น จึงมีมติให้เลื่อนการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2561 ไปจนกว่าผู้สอบบัญชีของบริษัทได้ตรวจสอบและแก้ไขข้อมูล และตัวเลขทางบัญชีของบริษัทเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงประมาณภายในเดือนก.ย.61

อีกทั้ง หากบริษัทมีความคืบหน้าเกี่ยวกับกรณีกระบวนการยักยอกเศษเหล็ก บริษัทก็จะเผยแพร่ข้อมูลต่อตลาดหลักทรัพย์ฯต่อไปทันที


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ