นายเติมชัย บุนนาค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปี 2561 บริษัทฯ และกลุ่มบริษัท GPSC มีรายได้ทั้งสิ้น 5,716 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4/2560 ทั้งสิ้น 867 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 18 โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่จำนวน 922 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 200 ล้านบาท หรือร้อยละ 28 จากไตรมาสที่ 4/2560 โดยมีรายได้จากการขายไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น จากโรงไฟฟ้าไออาร์พีซี คลีนพาวเวอร์ (IRPC-CP) ซึ่ง GPSC ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 51 ที่ได้เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์เต็มกำลังการผลิตทั้งสองระยะ ในเดือนพฤศจิกายนปี 2560 ตามแผนที่กำหนดไว้
ดังนั้น ในไตรมาสที่ 1 ปี 2561 บริษัทฯ สามารถรับรู้กำไรจากการดำเนินการผลิตของ IRPC-CP เต็มทั้งสองระยะตลอดทั้งไตรมาส รวมทั้งการที่บริษัทฯ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการต้นทุนการผลิตไฟฟ้าและไอน้ำของโรงไฟฟ้าประเภทโคเจนเนอเรชั่น ทำให้ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทฯ เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับทิศทางและภาพรวมของการดำเนินธุรกิจในปี 2561 บริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อมที่จะขยายฐานลูกค้าทั้งในกลุ่มบมจ.ปตท. (PTT) และลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมในพื้นที่มาบตาพุด ที่จะมีการขยายตัวเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะของบมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) ที่ได้มีการประกาศแผนการลงทุนในโครงการปิโตรเคมีทั้งขั้นต้นและขั้นปลายใน 5 ปี ส่งผลให้ GPSC ยังมีโอกาสทั้งในด้านการลงทุนและการสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีการเจรจาโอกาสเพิ่มเติมในการขยายสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ไอน้ำ สัญญาเดิม และสัญญาใหม่ในอนาคตอีกด้วย เพื่อเป็นการเสริมศักยภาพการเป็นแกนนำในธุรกิจไฟฟ้าของกลุ่ม ปตท. อย่างแท้จริง และบริษัทฯ พร้อมสนับสนุนการลงทุนที่เกิดขึ้นทั้งจากทางภาครัฐและเอกชน ตามนโยบายการส่งเสริมการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยบริษัทฯ เร่งทำการศึกษาและพิจารณาแผนการลงทุนบนพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และนิคมอุตสาหกรรมอื่นๆ เพื่อให้ทันกับความต้องการใช้ไฟฟ้า เสริมความมั่นคงการใช้ไฟฟ้าในเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมของประเทศ