บมจ.สิงห์ เอสเตท (S) ชี้แจงผลประกอบการไตรมาส 1/61 บริษัทมีกำไรสุทธิ 252 ล้านบาท เติบโต 651 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลหลักจากกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน และเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมาบริษัทมีกำไรสุทธิลดลง 62% เนื่องจากผลการดำเนินงานในไตรมาสก่อนรวมรายได้ที่มิได้เกิดขึ้นเป็นประจำจากการรับรู้รายได้ค่าเช่ารับล่วงหน้าพื้นที่สำนักงานในโครงการสิงห์ คอมเพล็กซ์
ทั้งนี้ ในไตรมาส 1/61 บริษัทมีรายได้อื่นจำนวน 348 ล้านบาท ประกอบด้วยดอกเบี้ยรับ 29 ล้านบาท จากเงินให้กู้ยืมแก่กิจการร่วมค้าในสหราชอาณาจักร และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งถือเป็นรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับการดำเนินงาน จำนวนเงินรวม 254 ล้านบาท
บริษัทฯ มีรายได้รวมเท่ากับ 1,123 ล้านบาท โดยธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักอาศัยและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้ายังคงเป็นกลุ่มธุรกิจที่สร้างรายได้หลักให้แก่บริษัทฯ โดยมีสัดส่วนรายได้คิดเป็น 44% และ 34% ของรายได้รวมในไตรมาสนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รายได้รวมลดลง 7% จากผลการดำเนินงานที่ชะลอตัวลงของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักอาศัย
เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้รวมลดลง 56% เนื่องจากการรับรู้ค่าเช่าพื้นที่รับล่วงหน้า (upfront payment) ตามสัญญาเช่าพื้นที่ระยะยาว (สัญญาเช่า 50 ปี) ในโครงการสิงห์ คอมเพล็กซ์ เป็นรายได้ค่าเช่าในผลการดำเนินงานของไตรมาส 4/60 หากไม่นับรวมรายการที่มิได้เกิดขึ้นเป็นประจำดังกล่าว รายได้รวมของบริษัทฯ ในไตรมาสนี้จะสูงกว่าไตรมาสก่อน 9% จากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของธุรกิจโรงแรม
กำไรขั้นต้นของบริษัทฯ เพิ่มขึ้น 8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากผลประกอบการที่ดีขึ้นของธุรกิจโรงแรมและธุรกิจวัสดุก่อสร้าง และเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นลดลง 56% เนื่องจากในไตรมาสก่อน บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นจากการรับรู้รายได้ค่าเช่าพื้นที่รับล่วงหน้าของโครงการสิงห์ คอมเพล็กซ์ ดังที่กล่าวข้างต้น โดยในไตรมาสนี้บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 47% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 40 และ 46% ตามลำดับ