BTS ตั้งเป้าปี 61/62 ผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายหลักเติบโต 4-5% ,อัตราการเติบโตเฉลี่ยของค่าโดยสารที่ 1.5-2%

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 30, 2018 09:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) เปิดเผยว่า ในงวดปี 61/62 (เม.ย.61 - มี.ค.62) ในส่วนของธุรกิจระบบขนส่งมวลชน บริษัทฯ ตั้งเป้าหมำยการเติบโตของรายได้จากหลายส่วน อาทิ

(i) คาดการณ์การรับรู้รายได้ค่าก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้ำสายสีชมพูและสายสีเหลือง จำนวน 20–25 พันล้านบาท

(ii) คาดการณ์รายได้จากงานจัดหาขบวนรถไฟฟ้ำ สำหรับส่วนต่อขยายสายสีเขียว และรายได้จากการให้บริการติดตั้งงานระบบสำหรับส่วนต่อขยายสายสีเขียวใต้ (แบริ่ง – สมุทรปราการ) และส่วนต่อขยายสำยสีเขียวเหนือ (หมอชิต – คูคต) จำนวน 7–9 พันล้านบาท

(iii) คาดการณ์รายได้ดอกเบี้ยรับจากงานจัดหาขบวนรถไฟฟ้าและงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลืองที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ประมาณ 600–700 ล้านบาท

(iv) คาดการณ์การเติบโตของจำนวนผู้โดยสารสายหลัก ที่ 4-5% และตั้งเป้าหมายอัตราการเติบโตเฉลี่ยของค่าโดยสารที่ 1.5-2% ปัจจัยหลักมาจากการเปิดให้บริการเต็มรูปแบบของส่วนต่อขยายสายสีเขียวใต้ ระยะทาง 12.6 กิโลเมตร ที่จะเปิดให้บริการในเดือนธันวาคม 2561

และ (v) คาดการณ์รายได้จากการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุง เติบโต 30% จากปีก่อน เป็นผลมาจากการเปิดให้บริการเต็มรูปแบบของส่วนต่อขยายสำยสีเขียวใต้ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น

นอกจากนี้ ยังคาดว่าจะมีรถไฟฟ้าที่จะเปิดประมูลในปี 61/62 อาทิ รถไฟฟ้าขนาดเบา หรือ LRT ระยะทำง 18.3 กิโลเมตร รถไฟฟ้าสายสีส้ม ระยะทาง 39.6 กิโลเมตร รวมไปถึงโครงการรถไฟความเร็วสูง ระยะทาง 220 กิโลเมตร ทั้งนี้ ด้วยประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ รวมไปถึงความพร้อมในทุกด้านทั้งเงินทุน พันธมิตรและเทคโนโลยี บริษัทฯ จึงมีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการเข้าร่วมประมูลโครงการรถไฟฟ้ำตามแผนของรัฐบาลทุกโครงการ

ในส่วนของธุรกิจสื่อโฆษณา ภายใต้บมจ. วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย (VGI) ยังคงได้รับประโยชน์จากสภาพเศรษฐกิจโดยรวมที่ฟื้นตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการ synergy กับ Rabbit Group เพื่อเชื่อมต่อการให้บริการสื่อโฆษณาในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ (O2O Solutions) ได้อย่างครบวงจรมากยิ่งขึ้น ปัจจัยดังกล่าวจะเป็นปัจจัยหนุนในการปรับขึ้นราคาและการเพิ่มกำลังการผลิตสื่อโฆษณาได้มากยิ่งขึ้น โดยวีจีไอคาดว่ารายได้รวมของธุรกิจสื่อโฆษณา จะเพิ่มขึ้นเป็น 4.4-4.6 พันล้านบาท ในขณะที่อัตรากำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่ำเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA Margin) และอัตรากำไรสุทธิ คาดว่าจะอยู่ในช่วง 40-45% และ 20-25% ตามลำดับ

สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ภายหลังการโอนกิจการทั้งหมดของบริษัท ยูนิคอร์น เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (UE) ทำให้ทรัพย์สินส่วนใหญ่ภายใต้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท ถูกโอนให้แก่บมจ.ยู ซิตี้ (U) ทำให้นับจากนี้ไปบริษัทรับรู้ผลการดำเนินงานจากสินทรัพย์ดังกล่าวในรูปแบบของ Equity Income จากยู ซิตี้แทน ทั้งนี้ ยู ซิตี้คาดว่าในปี 2561 จะมีรายได้ประมาณ 6-6.7 พันล้ำนบำท และมี EBITDA Margin ไม่ต่ำกว่า 25%

ส่วนรายได้จากการดำเนินงานของ BTS ในงวดปี 60/61 (เม.ย.60-มี.ค.61) ปรับตัวดีขึ้น 63.9% จากปีก่อน เป็น 14,102 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการดำเนินงานของธุรกิจระบบขนส่งมวลชนและธุรกิจสื่อโฆษณา

รายได้รวมจากการดำเนินงานของธุรกิจระบบขนส่งมวลชน จำนวน 9,112 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 115.1% หรีอ 4,875 ล้านบาท จากปีก่อน

รายได้จากการให้บริการรับเหมาติดตั้งและก่อสร้างและจัดหารถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 6,028 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 244.8% จากปีก่อน ปัจจัยหลักมาจากการติดตั้งงานระบบและจัดหารถไฟฟ้าในโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวใต้และเหนือ

รายได้จากการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุง (ไม่รวมดอกเบี้ยรับจากงานจัดหารถไฟฟ้าและงานระบบ) เพิ่มขึ้น 12.3% จากปีก่อน เป็น 1,865 ล้านบาท มาจากการเพิ่มขึ้นตามสัญญาของรายได้ค่าเดินรถโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวปัจจุบันและจากสถานีสำโรง (E15) ซึ่งเป็นสถานีแรกในโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวใต้

ยอดผู้โดยสารรวมในส่วนของรถไฟฟ้าสายสีเขียวหลักในปี 60/61 จำนวน 241.2 ล้ำนคน เพิ่มขึ้น 1.3% จากปีก่อน และอัตราค่าโดยสารเฉลี่ย เพิ่มขึ้น 1.4% จากปีก่อน เป็น 28.3 บาทต่อเที่ยว

รายได้ธุรกิจสื่อโฆษณาในปี 60/61 จำนวน 3,902 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.7% หรือ 893 ล้านบาท จากปีก่อน เป็นผลจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านเป็นหลัก

การปรับโครงสร้างการถือหุ้นในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ผ่านการโอนกิจการทั้งหมด (EBT) ของบริษัท ยูนิคอร์น เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (UE) ไปยังบมจ. ยู ซิตี้ (U) ทำให้บริษัทฯ รับรู้กำไรจากการทำธุรกรรม จำนวน 1,880 ล้านบาท

กำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย ดอกเบี้ย และภาษี (Operating EBITDA) สำหรับปี 60/61 จำนวน 4,089 ล้านบาท เติบโตขึ้น 39.6% หรือ 1,161 ล้านบาท จากปีก่อน

กำไรสุทธิหลังหักภาษีจากรายการที่เกิดขึ้นเป็นประจำ (หลังหักส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย) จำนวน 2,515 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,098 ล้านบาท หรือ 77.5% จากปีก่อน ปัจจัยหลักมาจากการเติบโตของผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น มีรายได้จากดอกเบี้ยรับและรายได้จากการลงทุนเพิ่มขึ้น และรับรู้ส่วนแบ่งกำไรสุทธิจากการร่วมค้ำและบริษัทร่วมที่เพิ่มขึ้น แม้การเติบโตบางส่วนจะลดลงจากค่าใช้จ่ายทางการเงินที่สูงขึ้นก็ตาม

กำไรสุทธิ (หลังหักส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย) จำนวน 4,416 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,412 ล้านบาท หรือ 120.4% จากปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการรับรู้กำไรจากรายการที่เกิดขึ้นเป็นประจำและกำไรพิเศษจากการปรับโครงสร้างในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

บริษัทฯ จ่ายเงินปันผลประจำปี 60/61 แก่ผู้ถือหุ้น ทั้งสิ้น 4,876 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเงินปันผลตอบแทนประจำปี อยู่ที่ประมาณ 3.95%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ