บมจ.ศุภาลัย (SPALI) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ (10 ก.ค.) มีมติให้บริษัท ศุภาลัย พรอพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด (SPM) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้นอยู่ 99.99% ทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมด 100% หรือจำนวน 992.01 ล้านหุ้น ในบมจ.มั่นคงเคหะการ (MK) โดยสมัครใจ (Voluntary Tender Offer) ในราคาหุ้นละ 4.10 บาท รวมเป็นมูลค่าประมาณ 4.07 พันล้านบาท ภายใต้เงื่อนไขว่า SPM จะทำการยกเลิกคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมด หากเมื่อสิ้นสุดระยะเวลารับซื้อแล้วมีผู้เสนอขายหุ้นจำนวนน้อยกว่า 25% โดยการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะเป็นการเพิ่มโอกาสการขยายธุรกิจ
ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการให้ SPM ยื่นแบบประกาศเจตนาในการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ (แบบ247-3) ภายใน 3 วันทำการนับจากวันที่ประกาศต่อสาธารณชน และคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (แบบ 247-4) ภายใน 7 วันทำการนับจากวันที่ยื่นประกาศเจตนาเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ
สำหรับ MK เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้า ได้แก่ จัดสรรที่ดินเปล่า สร้างบ้านสำเร็จรูปขายพร้อมที่ดิน และรับเหมาก่อสร้างบ้านและคอนโดมิเนียม ตลอดจนให้เช่าอาคาร และที่จอดรถ และธุรกิจสนามกอล์ฟ เป็นต้น โดยมีนายประทีป ตั้งมติธรรม ถือหุ้นใหญ่ 11.29% ,บมจ.ฟินันซ่า (FNS) ถือหุ้น 9.78% ,บริษัท ซีพีดี โฮลดิ้ง จำกัด ถือหุ้น 9.07% , UBS AG SINGAPORE BRANCH ถือหุ้น 8.83% เป็นต้น
ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ จะเป็นโอกาสการลงทุนในบริษัทซึ่งมีทรัพย์สินที่บริษัทสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้ เช่น ที่ดินเปล่า โครงการอสังหาริมทรัพย์ระหว่างการพัฒนา เป็นต้น , โอกาสในการสร้างมูลค่าเพิ่มจากการที่บริษัทและ MK มีจุดเด่นและความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกัน โดยการผสานทรัพยากรด้านความรู้ ความเชี่ยวชาญ เทคโนโลยี รูปแบบสินค้า ตราสินค้า การก่อสร้าง การจัดซื้อ ความแข็งแกร่งทางการเงิน และบุคลากร อีกทั้ง เพิ่มอำนาจต่อรองกับผู้รับเหมาในการจัดหาวัตถุดิบและการก่อสร้าง เนื่องจากมีขนาดการลงทุนและการก่อสร้างรวมที่มากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในระยะยาวและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจในด้านต่าง ๆ
ตลอดจนเพิ่มโอกาสในการเติบโตของบริษัทจากการขยายธุรกิจและการลงทุนไปยังธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้เช่าและบริการ และยังเป็นโอกาสการขยายลงทุนให้ครอบคลุมประเภทของสินทรัพย์ในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น โดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้เช่าและบริการ และเพิ่มสัดส่วนรายได้จากรายได้ค่าเช่าและค่าบริการ (Recurring Income) ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงด้านผลประกอบการโดยการกระจายรายได้ให้มาจากหลากหลายประเภททรัพย์สิน
สำหรับแหล่งเงินลงทุนในการเข้าซื้อกิจการ MK ครั้งนี้ SPM จะได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากบริษัทโดยการเพิ่มทุน และ/หรือการกู้ยืมจากบริษัท และ/หรือได้รับการสนับสนุนจากบริษัทในการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน สำหรับทำคำเสนอซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของกิจการ
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทเห็นว่าการเข้าทำรายการมีความสมเหตุสมผล และเป็นประโยชน์สูงสุดต่อบริษัทและผู้ถือหุ้น เนื่องจากราคาเสนอซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของกิจการในครั้งนี้ เป็นราคาที่เหมาะสม นอกจากนั้นการทำรายการดังกล่าวจะช่วยสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจเพื่อการเติบโตของบริษัทในอนาคต
อนึ่ง ราคาหุ้น MK ปิดตลาดเมื่อวานนี้อยู่ที่ 3.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท หรือ 2.48%
ด้าน MK แจ้งว่าบริษัทได้รับทราบข่าวกรณีที่ SPM จะทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัท ภายใต้เงื่อนไขว่า SPM จะยกเลิกการทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมด หากเมื่อสิ้นสุดระยะเวลารับซื้อมีผู้เสนอขายหุ้นจำนวนน้อยกว่า 25% โดยเมื่อบริษัทได้รับคำเสนอซื้อหุ้นจาก SPM แล้ว บริษัทจะแจ้งข้อมูลให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและผู้ลงทุนทราบ และจะเรียกประชุมคณะกรรมการบริษัทเพื่อแต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเพื่อให้ความเห็นแก่ผู้ถือหุ้นต่อไป ทั้งนี้ การทำคำเสนอซื้อดังกล่าวไม่ใช่เพื่อการเพิกถอนหลักทรัพย์
นายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร SPALI กล่าวถึงเหตุผลที่ศุภาลัยมีความสนใจในการทำ Voluntary Tender Offer เนื่องจาก MK เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ดำเนินธุรกิจที่ต่างไปจากที่ศุภาลัยดำเนินการอยู่ อาทิ คลังสินค้า ธุรกิจสนามกอล์ฟ เป็นต้น และมีที่ดิน Land Bank หลายแปลงอยู่ในทำเลที่ดี มีต้นทุนที่ไม่สูงมาก เมื่อเทียบกับราคาที่ดินในปัจจุบัน และมีแนวโน้มจะพัฒนาให้เติบโตในอนาคต อีกทั้งเป็นการขยายการลงทุนไปในทำเลหรือกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างจากโครงการของ SPALI ในปัจจุบัน
ปัจจุบันศุภาลัยมีความพร้อมทางด้านการเงินสูง เพราะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งด้านยอดขาย ผลประกอบการ และมีกระแสเงินสดที่ดี จากภาระหนี้ไม่สูงมากเนื่องจากมีการเพิ่มทุนไปเมื่อปีที่ผ่านมา และมีต้นทุนการเงินที่ต่ำกว่า 3% จึงมั่นใจได้ว่า การทำ Voluntary Tender Offer ในครั้งนี้จะทำให้เกิดความร่วมมือทางธุรกิจแบบ WIN-WIN ทั้ง SPALI และ MK นอกจากนี้ SPALI สามารถช่วยปรับลดต้นทุนการพัฒนาที่ดินและต้นทุนด้านการเงินของ MK และทำให้กำไรรวมเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งการลงทุนนี้จะคล้ายกับแนวทางการลงทุนโครงการในประเทศออสเตรเลีย โดยศุภาลัยร่วมบริหารเชิงนโยบายเป็นหลัก