บมจ.โรงพยาบาลจุฬารัตน์ (CHG) แจ้งการพิจารณาจ่ายปันผล และการก่อสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่
เรื่อง : จ่ายปันผลเป็นเงินสด วันที่คณะกรรมการมีมติ : 09 ส.ค. 2561 ชนิดการปันผล : จ่ายปันผลเป็นเงินสด วันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) : 23 ส.ค. 2561 วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) : 22 ส.ค. 2561 จ่ายให้กับ : ผู้ถือหุ้นสามัญ อัตราการจ่ายปันผลเป็นเงินสด (บาทต่อหุ้น) : 0.02 มูลค่าที่ตราไว้ (Par)(บาท) : 0.10 วันที่จ่ายปันผล : 07 ก.ย. 2561 จ่ายปันผลจาก : งวดดำเนินงานวันที่ 01 ม.ค. 2561 ถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2561
นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ยังอนุมัติก่อตั้งโรงพยาบาลศูนย์มะเร็งและรังสีรักษาสุวรรณภูมิ เพื่อให้บริการทาง การแพทย์เฉพาะทางอย่างครบวงจรแก่ลูกค้าทั่วไป และลูกค้าคู่สัญญาเท่านั้น ภายในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการและจังหวัดใกล้เคียง โดยจัดตั้งบริษัท มะเร็ง สุวรรณภูมิ จำกัด (บจ.มะเร็ง สุวรรณภูมิ) เพื่อดำเนินธุรกิจโรงพยาบาลดังกล่าว ซึ่งเป็นประเภทที่ไม่รับผู้ ป่วยไว้ค้างคืน ภายใต้ชื่อ "โรงพยาบาลศูนย์มะเร็งและรังสีรักษาสุวรรณภูมิ" มีทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท โดยบริษัทถือหุ้น 99.99%
โครงการก่อสร้างโรงพยาบาลศูนย์มะเร็งและรังสีรักษาสุวรรณภูมิ เป็นอาคาร 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอยประมาณ 2,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่ที่เลขที่ 76 หมู่ 5 ตำบลราชาเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ จะเริ่มก่อสร้างในปี 2561 และ คาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จและสามารถเปิดให้บริการได้ภายในไตรมาส 2/62 มีงบประมาณในการสร้างโรงพยาบาล จำนวน 254 ล้านบาท ประกอบด้วยค่าเช่าที่ดินระยะเวลา 9 ปี จำนวน 54 ล้านบาท ค่าก่อสร้างและตกแต่ง จำนวน 50 ล้านบาท และค่า เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ จำนวน 150 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทจะใช้สินเชื่อจากสถาบันการเงินบางส่วนและใช้กระแสเงินสดภายในจากการดำเนินธุรกิจของบริษัทในการก่อ สร้างโครงการฯ ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องหรือการดำเนินงานของบริษัท
โรงพยาบาลศูนย์มะเร็งและรังสีรักษาสุวรรณภูมิจะเป็นโรงพยาบาลเอกชนที่มีคุณภาพ โดยจะเปิดให้บริการทางการแพทย์ เฉพาะทาง เพื่อให้บริการแก่ผู้ป่วยโรคมะเร็งโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างครบวงจร บริษัทจะนำเอาความชำนาญและศักยภาพในการ ดำเนินธุรกิจของบริษัทมาใช้ในการบริหารจัดการโรงพยาบาลศูนย์มะเร็งและรังสีรักษาสุวรรณภูมิ ให้เป็นโรงพยาบาลเอกชนเฉพาะ ทางด้านมะเร็งชั้นนำเพื่อต่อยอดในการดำเนินธุรกิจของบริษัทต่อไปในอนาคตและเป็นการขยายฐานลูกค้าของบริษัทให้กว้างขวางขึ้น ซึ่งเป็นการดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์ของกลุ่มบริษัท และส่งผลให้บริษัทมีการขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมพื้นที่ในภาคตะวันออก