บมจ.ฟินันซ่า (FNS) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนจากเดิม 1,235,198,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ 1,729,277,200 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 98,815,840 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท รวมเป็นทุนจดทะเบียนที่เพิ่มขึ้นทั้งสิ้น 494,079,200 บาท เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าว แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering) ในอัตรา 2.5 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน ในราคาเสนอขายหุ้นละ 5 บาท รวมมูลค่า 494,079,200 บาท
พร้อมทั้งกำหนดให้วันที่ 25 ตุลาคม 2561 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน (Record Date) และกำหนดวันจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นในระหว่างวันที่ 12-16 พฤศจิกายน 2561
นอกจากนั้น ยังมีมติอนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมวิสำมัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2561 เพื่อพิจารณาอนุมัติกำรขอผ่อนผันการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของกิจกำรโดยอาศัยมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น (Whitewash) สืบเนื่องจาก นายวรสิทธิ์ โภคาชัยพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ และผู้ถือหุ้นเดิม ซึ่งไม่ได้เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ ได้มีหนังสือแจ้งต่อที่ประชุมว่าประสงค์ที่จะจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวตามสัดส่วนที่ถืออยู่ และจองซื้อเกินสิทธิ เป็นจำนวนรวมไม่เกิน 98,815,840 หุ้น คิดเป็นส่วนที่จองซื้อตามสิทธิ 18,102,742 หุ้น และจองซื้อเกินสิทธิ 80,713,098 หุ้น
ทั้งนี้ ภายใต้สมมติฐานว่าหากไม่มีผู้ถือหุ้นรายใดจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน และ นายวรสิทธิ์ใช้สิทธิซื้อหุ้นตามจำนวนดังกล่าวข้างต้น จำนวนหุ้นสูงสุดที่ นายวรสิทธิ์จะได้รับจัดสรรจะเท่ากับ 98,815,840 หุ้น จะเป็นผลให้สัดส่วนการถือหุ้นและสิทธิออกเสียงทั้งหมดของนายวรสิทธิ์เพิ่มขึ้นเป็นไม่เกิน 41.66% ซึ่งอาจก้าวข้ามจุดที่ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทที่ 25% ทำให้นายวรสิทธิ์มีหน้าที่ที่จะต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท แต่อย่างไรก็ดี นายวรสิทธิ์มีความประสงค์จะขอผ่อนผันการคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท
และที่ประชุมยังได้อนุมัติให้บริษัทขยายวงเงินและขยายระยะเวลาในการออกและเสนอขายหุ้นกู้ จากวงเงิน 1.5 พันล้านบาท อายุ 5 ปี ระยะเวลาการออก 10 ปี (56-65) เป็นวงเงิน 2 พันล้านบาท อายุ 7 ปี ระยะเวลาการออก 10 ปี (61-71) เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมีความต้องการระดมเงินทุนเพื่อนำเงินเป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจเพิ่มเติม และ/หรือการใช้จ่ายเพื่อการลงทุนในโครงการสำคัญของบริษัท และ/หรือ เพื่อชำระหนี้ของบริษัท