บมจ.เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น (NBC) แจ้งผลการประชุมเพื่อให้ข้อมูลกับผู้ลงทุนและผู้ที่เกี่ยวข้อง (Public Presentation) เมื่อวานนี้ (28 ส.ค.) หลังจากที่หลักทรัพย์ของบริษัทถูกขึ้นเครื่องหมาย "C" จากการที่มีส่วนของผู้ถือหุ้นน้อยกว่าร้อยละ 50 ของทุนชำระแล้ว สำหรับงบการเงินไตรมาส 2/61 โดยวางแผนพัฒนากลยุทธ์สร้างความแตกต่างทั้งด้านการผลิตรายการ และการนำเสนอ พร้อมกับมุ่งสร้างรายได้ จากช่องทาง New Media
สำหรับแนวทางแก้ไข เพื่อเพิ่มเรตติ้งและรายได้ ได้แก่ การพัฒนากลุยทธ์ ซึ่งจะมีการผลิตรายการสดทุกสถานการณ์ แบบไม่จำกัด เงื่อนไข ,นำเสนอเนื้อหาข่าวที่ลึกทุกรายละเอียด และนำเสนอให้เหมือนอยู่ในสถานการณ์ และกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อทำให้องค์กรมีความพร้อมอยู่เสมอ
ด้านการสร้างรายได้จากช่องทาง New Media นั้น ในส่วน Content ส่วนกลางจะมีการปรับหน้าข่าวในสื่อสิ่งพิมพ์ให้เป็นภาพเคลื่อนไหว พัฒนาช่องทางในการแชร์ลิ้งค์ข่าวการเข้ากลุ่มเฟซบุ๊กต่าง ๆ รวมถึงการหาเพจพันธมิตร
ส่วน Content ภูมิภาค จะมีการบริหารจัดการให้เต็มประสิทธิภาพ โดยจัดประชุมผู้สื่อข่าวภูมิภาค การบริหารเพจหน้าข่าวภูมิภาค เช่น เนชั่นทั่วไทย และคมชัดลึกทั่วไทย รวมทั้งหาเพจพันธมิตรสำหรับแชร์ข่าวภูมิภาค ตลอดจนการขยายฐานภูมิภาค ด้วยการสร้างเว็บไซต์สาขา ที่กระจายจากเว็บไซต์หลักในบางจังหวัด นอกจากนี้จะให้มีส่วนร่วมภาคประชาชน เพื่อให้เข้าถึงข้อมูลของภาคประชาชน กำหนดเงื่อนไขการเป็นสมาชิกที่ชัดเจน จัดหาเพจกลุ่มเป้าหมายในแต่ละจังหวัดเพื่อสร้างพันธมิตรภาคประชาชน ตลอดจนร่วมกับพันธมิตร เปิดตลาดขายตรงแบบกลุ่ม โดยแบ่งช่วงเวลาการออกอากาศให้และนำรายการที่ออกอากาศไปเผยแพร่ในช่องทางสื่อโซเชียลมีเดียเพิ่มเติม
นอกจากนี้ จะจัดทำแผนกิจกรรมในการสร้างรายได้สำหรับปี 62 ซึ่งแบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ กิจกรรมหลักประจำปี ซึ่งจะให้ผู้ร่วมกิจกรรมเห็นคุณค่าและความสำคัญของกิจกรรม เน้นหารายได้จากผู้สนับสนุน ,กิจกรรมเพื่อหารายได้ โดยจัดกิจกรรมตามเทศกาล และกิจกรรมทัวร์ เพื่อจัดให้แฟนรายการ และแฟนคลับได้เข้าร่วมกิจกรรมทัวร์ โดยมีผู้ประกาศข่าวที่ได้รับความนิยมเป็นผู้นำเที่ยว ตลอดจนจะมีแผนงานอื่น ๆ ได้แก่ การใช้กลยุทธ์ด้านราคา สร้างจุดเด่นให้กับผู้ประกาศข่าว การควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการหาพันธมิตรเพื่อลดต้นทุนในการผลิตรายการ
ส่วนสาเหตุที่บริษัทมีส่วนผู้ถือหุ้นน้อยกว่าร้อยละ 50 ของทุนชำระแล้ว เนื่องจากการตั้งด้อยค่าของใบอนุญาตทีวีดิจิทัล ในระหว่างปี 60 บริษัทได้บันทึกรายการผลขาดทุนจากการด้อยค่าของใบอนุญาตทีวีดิจิทัล ขณะที่ธุรกิจยังมีการแข่งขันที่รุนแรง ประกอบกับช่องทางการรับชมของผู้บริโภคที่มีทางเลือกอื่นมากกว่าทีวี