บมจ.ที เอ็นจิเนียร์ริ่ง คอร์เปอร์เรชั่น (T) แจ้งสรุปการประชุมเมื่อวานนี้ (30 ส.ค.) เพื่อให้ข้อมูลกับผู้ลงทุนและผู้ที่เกี่ยวข้อง (Public Presentation) หลังจากที่หลักทรัพย์ของบริษัทถูกขึ้นเครื่องหมาย "C" จากการที่มีส่วนของผู้ถือหุ้นน้อยกว่าร้อยละ 50 ของทุนชำระแล้ว สำหรับงบการเงินไตรมาส 2/61 โดยวางแนวทางแก้ไขในช่วง 4-6 เดือน สร้างรายได้เพิ่มและบริหารจัดการต้นุทนให้มีประสิทธิภาพ รวมถึงชำระคืนหนี้สินระยะยาว พร้อมขอรับความช่วยเหลือใหม่ ส่วนแผนแก้ไขเชิงนโยบายในช่วง 6-12 เดือนจะหาพันธมิตรเพิ่มศักยภาพธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง พร้อมเล็งลดมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (พาร์) เพื่อลดทุนจดทะเบียน เพิ่มสัดส่วนผู้ถือหุ้นให้มากกว่า 50%
สำหรับสาเหตุที่ทำให้บริษัทประสบปัญหาดังกล่าว เนื่องจากในอดีตจนถึงปี 57 บริษัทได้ประสบกับปัญหาหนี้สินและการขาดทุนต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานจากการบริหารงานของผู้บริหารชุดเดิม ทำให้บริษัทมีภาระที่ต้องชำระหนี้เพื่อลดสัดส่วนหนี้สินมาโดยตลอด รวมถึงมีการตั้งประมาณการสำหรับลูกหนี้ที่ค้างนาน ,การตั้งประมาณการค่าความเสียหายจากคดีความ , บริษัทไม่ได้รับวงเงินช่วยเหลือจากสถาบันการเงินเนื่องมาจากผลกระทบของคดีความเกี่ยวกับงานรับเหมาก่อสร้างในปี 55-57 ทำให้บริษัทต้องบริหารงานโดยเงินสดหมุนเวียนที่บริษัทมีอยู่ ,การแข่งขันในธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ราคาของวัสดุก่อสร้างและค่าแรงที่สูงขึ้น ทำให้บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นค่อนข้างต่ำ และการตั้งสำรองค่าใช้จ่ายจากโครงการก่อสร้างเพื่อป้องกันความเสียหาย
ทั้งนี้ บริษัทมีแนวทางแก้ไขในกรอบระยะเวลา 4-6 เดือน ได้แก่ ชำระคืนหนี้เงินกู้ยืมระยะยาวที่บริษัทมีต่อสถาบันการเงินทั้งหมด ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทปราศจากหนี้สินระยะยาวที่มีอยู่ต่อสถาบันการเงิน และดำเนินการขอรับความช่วยเหลือทางการเงินจากสถาบันการเงินเพื่อนำมาบริหารจัดการธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ , ปรับปรุงการบริหารจัดการต้นทุนในการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพเพื่อลดต้นทุนในการดำเนินงาน , กลับรายการประมาณการตั้งสำรองค่าใช้จ่ายที่ได้ตั้งสำรองเผื่อไว้เรียบร้อยแล้วให้กลับมาเป็นรายได้ โดยควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานโครงการก่อสร้าง , ขอคืนภาษีปี 57-60 จำนวน 81.90 ล้านบาท ,กลับรายการประมาณการค่าความเสียหายจากคดีความ หากบริษัทเป็นฝ่ายชนะคดี และสร้างรายได้เพิ่มขึ้น โดยการขยายฐานลูกค้าไปยังงานประเภทงานรับเหมาก่อสร้าง (EPC) เนื่องจากการรับเหมางานก่อสร้างประเภทนี้ มีกำไรสูงกว่างานประเภทอื่น
ส่วนแนวทางแก้ไขในเชิงนโยบายในกรอบระยะเวลา 6- 12 เดือน บริษัทอยู่ในระหว่างเจรจาและศึกษาแนวทางการดำเนินงานกับผู้ที่มีความสามารถในการเข้ามาเป็นพันธมิตรกับบริษัทอยู่หลายราย ทั้งในส่วนของการเพิ่มศักยภาพในส่วนธุรกิจรับเหมาก่อสร้างให้มีความสามารถในการดำเนินงาน และรับงานที่มีมูลค่าและผลกำไรมากกว่าเดิมยิ่งขึ้น และในส่วนของธุรกิจใหม่ ๆ ที่มีประสิทธิภาพในการสร้างรายได้ เงินทุน และผลกำไรให้กับบริษัทมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้บริษัทอยู่ในระหว่างพิจารณาลดพาร์เพื่อลดทุนจดทะเบียน เพื่อให้สัดส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทมีสัดส่วนมากกว่า 50% ของทุนชำระแล้วหลังหักส่วนต่ำมูลค่าหุ้น