บมจ.สแกน อินเตอร์ (SCN) แจ้งว่าบริษัทปรับแผนการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มในโรงไฟฟ้ามินบู ประเทศเมียนมา เหลือ 19% จากเดิมจะซื้อเพิ่ม 21% ส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มเป็นเพียง 49% จากเดิมจะถือเพิ่มเป็น 51% เนื่องจากไม่ต้องการเข้าไปมีอำนาจควบคุม เพราะต้องการมีสิทธิขายคืนหุ้นโรงไฟฟ้ามินบู หากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ในเมืองมินบู ขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งรวม 220 เมกะวัตต์ (MW สร้างไม่เสร็จตามกำหนดเวลา โดยที่ผู้ขายจะไม่สามารถกล่าวอ้างได้ว่าบริษัทมีอำนาจควบคุม
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการเมื่อวานนี้ (14 ก.ย.) อนุมัติยกเลิกมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 4/2561 เมื่อวันที่ 9 ส.ค.61 เรื่องการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มเติม 21% ในบริษัท พลังงานเพื่อโลกสีเขียว (ประเทศไทย) จำกัด (GEP Thailand) ซึ่งเป็นผู้ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มินบู ในเมียนมา โดยมีมูลค่าการลงทุนใหม่จำนวน 4.95 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 165.37 ล้านบาท พร้อมกับอนุมัติยกเลิกมติอื่นที่เกี่ยวข้องเฉพาะการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มในโรงไฟฟ้ามินบู รวมถึงการเพิ่มทุน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งจะที่ใช้ชำระเงินลงทุนให้กับ Planet Energy Holdings Pte. Ltd. (Planet Energy) ซึ่งเป็นผู้ขายด้วย
คณะกรรมการบริษัท อนุมัติการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มเติมใน GEP Thailand จำนวน 19% และได้ทำเจรจาแก้ไขเพิ่มเติมข้อตกลงกับ Planet Energy และ Noble Planet Pte. Ltd. (Noble Planet) (รวมเรียกว่า "ผู้ขาย") ในเรื่องการซื้อหุ้นเพิ่มเติมใน GEP Thailand เพื่อให้เกิดความชัดเจนและมีความแน่นอนว่าบริษัท จะไม่มีอำนาจควบคุมใน GEP Thailand ไม่ว่าโดยรูปแบบ และเนื้อหา
โดยบริษัทจะเข้าซื้อหุ้น 19% ดังกล่าวจาก Noble Planet ในสัดส่วน 12.37% โดยชำระค่าตอบแทนเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท และซื้อจาก Planet Energy จำนวน 6.63% ซึ่งจะชำระค่าตอบแทนเป็นเงินสด โดยภายหลังการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มดังกล่าวจะทำให้บริษัท ถือหุ้นใน GEP Thailand รวมเป็น 49% จากเดิมที่ถืออยู่ 30% ทั้งนี้ จากการที่บริษัทจะไม่มีอำนาจควบคุมใน GEP Thailand ตามมาตรฐานทางบัญชี ดังนั้น บริษัทจึงจะไม่สามารถนำงบการเงินของ GEP Thailand มารวมในงบการเงินรวมของบริษัทได้
สำหรับการเข้าซื้อหุ้นเพิ่ม 19% ในโรงไฟฟ้ามินบูดังกล่าว จะชำระค่าหุ้นด้วยหุ้นเพิ่มทุนและเงินสด ดังนั้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทจึงอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 610.85 ล้านบาท จากเดิม 600 ล้านบาท โดยออกหุ้นใหม่ 21.7 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 0.50 บาท จัดสรรให้กับ Noble Planet เพื่อเป็นค่าตอบแทนส่วนหนึ่งสำหรับหุ้น GEP Thailand ที่บริษัทจะลงทุนเพิ่มเติม ในราคาเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน 4.50 บาท/หุ้น คิดเป็นมูลค่า 97.63 ล้านบาท และจะทำให้ Noble Planet เข้ามาถือหุ้นในบริษัทสัดส่วน 1.78%
ทั้งนี้ หุ้นที่จะรับโอนจำนวนเพิ่มเติมสัดส่วน 19% ของ GEP Thailand จะเกิดขึ้น ณ วันที่เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโครงการระยะที่ 1 โดยปัจจุบันได้เริ่มก่อสร้างไปแล้ว ซึ่งมีความก้าวหน้าของงานประมาณ 55% ของโครงการระยะที่ 1 โดย ณ วันที่ 7 ก.ย.61 ผู้ถือหุ้นได้ลงทุนในส่วนของผู้ถือหุ้นให้แก่ GEP Thailand แล้วเป็นจำนวนเงิน 133.51 ล้านบาท จากส่วนของผู้ถือหุ้นที่ต้องลงทุนในงบประมาณโครงการระยะที่ 1 ทั้งหมดเป็นจำนวนเงิน 21.40 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 705.78 ล้านบาท โดยคาดว่าโครงการระยะที่ 1 จะก่อสร้างแล้วเสร็จและเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ภายในม.ค.62
นอกจากนี้บริษัทยังได้แจ้งการเปลี่ยนแปลงชื่อตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงเพื่อให้สอดคล้องกับโครงสร้างและการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน จากเดิมที่นายฤทธี กิจพิพิธ ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ เป็นตำแหน่งใหม่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มีผลตั้งแต่วันที่ 13 ก.ย.61