ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติและนำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนของบริษัท จำนวนไม่เกิน 16,879,900 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ให้แก่บุคคลในวงจำกัด (PP) จำนวน 6 ราย คือ 1.Mr.John Antony Wilkinson จำนวนหุ้นที่จะได้รับจัดสรร 6,264,400 หุ้น 2.Mr.Duncan Anthony Edwards จำนวนหุ้นที่จะได้รับจัดสรร 6,264,400 หุ้น3.Mr.John Phillips จำนวนหุ้นที่จะได้รับจัดสรร 2,087,611 หุ้น
4.Mr. Robin Alexander Angus Gilmour จำนวนหุ้นที่จะได้รับจัดสรร 626,440 หุ้น 5.Mr.Simon Christopher Edwards จำนวนหุ้นที่จะได้รับจัดสรร 418,149 หุ้น และ 6. Mr.Brent Andrew Johnston จำนวนหุ้นที่จะได้รับจัดสรร 1,218,900 หุ้น โดยราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวจะเท่ากับราคาตลาดในช่วงเวลาที่เสนอขาย คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 4.05% ของจานวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเพิ่มทุนในครั้งนี้
ทั้งนี้ บริษัทจะนำเงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน และรองรับการขยายธุรกิจของบริษัท ตามนโยบายทรานฟอร์เมชั่นธุรกิจของบริษัท เพื่อรับเทรนด์การเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์พลาสติกในตลาดโลก ซึ่งรวมไปถึงการลงทุนในกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์ General Packaging ชนิดใหม่ๆ และเพิ่มกาลังการผลิตของผลิตภัณฑ์ชนิดอื่นๆของบริษัท ในอนาคต
การเสนอขายหุ้นให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ในครั้งนี้ยังไม่สามารถคำนวณผลกระทบด้านราคาได้ เนื่องจากยังไม่มีการกำหนดราคาเสนอขายหุ้น อย่างไรก็ดี ราคาเสนอขายหุ้นจะเป็นไปตามราคาตลาด ภายใต้หลักเกณฑ์ของประกาศ ทจ. 72/2558 ซึ่งราคาตลาด หมายถึง ราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้าหนักของหุ้นของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ ย้อนหลังไม่น้อยกว่า 7 วันทำการติดต่อกัน แต่ไม่เกิน 15 วันทำการติดต่อกันก่อนวันกำหนดราคาเสนอขายหุ้น ดังนั้น ราคาเสนอขายหุ้นจึงไม่น่าจะมีผลกระทบต่อราคาหุ้นอย่างมีนัยสาคัญ
การเพิ่มทุนและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจากัดในครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างการบริหารงานของบริษัทเนื่องจากนักลงทุนที่จะได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจะไม่ส่งตัวแทนเข้ามาเป็นกรรมการ และ/หรือ ผู้บริหารของบริษัท
การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัดในครั้งนี้ จะส่งผลให้บริษัทมีศักยภาพในการลงทุนเพิ่มมากขึ้น อีกทั้ง ยังเป็นการสนับสนุนการลงทุนใน กลุ่ม Intelipac ซึ่งบริษัทะมองเห็นโอกาสในการขยายการดำเนินธุรกิจของบริษัทไปยังผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ประเภทกระดาษ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของโลกในปัจจุบัน และเพื่อขยายตลาดของผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์พลาสติกของกลุ่มบริษัทไปในทวีปยุโรปและออสเตรเลียตลอดจนสร้าง Synergy และเพิ่มมูลค่ากิจการของบริษัทและผู้ขาย อีกทั้งเพื่อนาผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ประเภทกระดาษมาใช้ในการศึกษาและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ของบริษัท เพื่อที่จะวางจำหน่ายในประเทศไทย และช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจของบริษัท นอกจากนี้ ยังเป็นการช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับบริษัท เพื่อนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนทั้งหมดมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ