บมจ. ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น (TICON) แจ้งว่า เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2561 บริษัท ทีอาร์เอ แลนด์ ดีเวลลอปเม้น ต์ จำ กัด (ทีอาร์เอ) ซึ่งมีสถานะเป็นบริษัทร่วมทุน ระหว่าง บริษัทฯ กับ บมจ. สวนอุตสาหกรรมโรจนะ (ROJNA)และบริษัท นิคมอุตสาหกรรมเอเซีย จำกัด (นิคมอุตสาหกรรมเอเซีย) (โดยบริษัทฯ ถือหุ้น 50% และ โรจนะกับนิคมอุตสาหกรรมเอเซีย ถือหุ้นบริษัทละ 25% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด) ได้เข้าร่วมการประมูลขายทอดตลาดที่ดินว่างเปล่าจำนวน 215 แปลง (จากคดีศาลล้มละลายกลาง ในคดีหมายเลขแดงที่ ล.1249/2555 คดีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีหมายเลขแดงที่ อม.55/2558 และคดีศาลแพ่ง ในคดีหมายเลขแดงที่ 4007/2552) เนื้อที่ตามโฉนดรวมทั้งสิ้น 4,315 ไร่ 0 งาน 22.05 ตารางวา ซึ่งตั้งยู่ที่บริเวณถนนบางนา-ตราด กม.32 อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ และเป็นผู้ชนะการประมูลดังกล่าวด้วยวงเงินประมูลรวมทั้งสิ้น 8,914,070,000 บาท
ทั้งนี้ ทีอาร์เอ ได้เข้าทำหนังสือสัญญาซื้อขายและมีหน้าที่ต้องชำระราคาซื้อขายส่วนที่เหลือภายใน 15 วันนับแต่วันที่ซื้อ อย่างไรก็ดีทีอาร์เอ ได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนการชำระราคาส่วนที่เหลือ และได้รับอนุญาตให้ขยายระยะเวลาชำระเงินดังกล่าวออกไปเป็นวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562 ดังนั้น บริษัทฯ คาดว่าทีอาร์เอจะดำเนินการรับโอนกรรมสิทธ์ในที่ดินที่ประมูลได้ดังกล่าวเสร็จสิ้นภายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562
อนึ่ง ที่ดิน 4.3 พันไร่ดังกล่าวเป็นของ บมจ.เอคิว เอสเตท (AQ) ซึ่งตั้งอยู่ถนนบางนา-ตราด กม.32.5 ทางหลวงหมายเลข 34 ถนนกรุงเทพฯ-ชลบุรีสายใหม่ (มอเตอร์เวย์)
นายโสภณ ราชรักษา ผู้อำนวยการใหญ่ TICON เปิดเผยว่า บริษัทเล็งเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจที่มีความสอดคล้องกับความเชี่ยวชาญของไทคอนในการพัฒนาด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมและความเชี่ยวชาญของพันธมิตร คณะกรรมการบริษัทฯ จึงมีมติให้บริษัท ทีอาร์เอ แลนด์ ดีเวลลอปเม้นต์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนประเดิมเปิดดีลแรกด้วยการชนะประมูลที่ดินพื้นใหญ่ย่านบางนา-ตราด กม. 32 รวมพื้นที่กว่า 4,300 ไร่ มูลค่าราว 8,900 ล้านบาท โดยนอกจากจะช่วยเพิ่มพื้นที่การพัฒนาในทำเลยุทธศาสตร์แล้ว ยังสอดรับกับแนวโน้มการขยายตัวของตลาดและกลยุทธ์ของบริษัทในการขยายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ด้านการอุตสาหกรรม
"ทำเลด้านตะวันออกของกรุงเทพเป็นทำเลยุทธศาสตร์สำคัญที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและเป็นแหล่งอุตสาหกรรมที่สำคัญของประเทศไทย มีความโดดเด่นด้านระบบโลจิสติกส์ที่เอื้อต่อการขนส่งและการกระจายสินค้า เนื่องจากตั้งอยู่ติดถนนบางนา-ตราด ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ และท่าเรือคลองเตย ทั้งยังสามารถเชื่อมต่อกับมอเตอร์เวย์และถนนวงแหวนตะวันออก ที่เชื่อมต่อไปถึงการพัฒนาในเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) จึงเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสูง เหมาะกับการนำไปพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ ซึ่งรวมถึงโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม, นิคมอุตสาหกรรม, โครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทมิกซ์ยูส และโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัย" นายโสภณกล่าว