บมจ.อุตสาหกรรม อีเล็คโทรนิคส์ (EIC) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ (19 ต.ค.) อนุมัติการลดทุนจดทะเบียนโดยการตัดหุ้นที่ยังไม่ได้ออกจำหน่าย หลังจากนั้นให้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 1.02 หมื่นล้านบาท จากเดิม 3.68 พันล้านบาท โดยออกหุ้นใหม่ 6.54 พันล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 1 บาท จัดสรรหุ้นไม่เกิน 6.54 พันล้านหุ้นให้กับผู้ถือหุ้นเดิมสัดส่วน 1 หุ้นเดิม ต่อ 2 หุ้นใหม่ ราคาขายหุ้นละ 0.05 บาท จองซื้อระหว่างวันที่ 24-28 ธ.ค.61 ,จัดสรรไม่เกิน 185 ล้านหุ้น รองรับการปรับสิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ ครั้งที่ 2 (EIC-W2) และจัดสรรไม่เกิน 15 ล้านหุ้น รองรับการปรับสิทธิ EIC-W3
บริษัทจะใช้เงินทุนที่ได้จากการเพิ่มทุนในครั้งนี้ เป็นแหล่งเงินทุนในการขยายธุรกิจเพื่อกระจายความเสี่ยงในการประกอบธุรกิจจากธุรกิจของบริษัทในปัจจุบัน ซึ่งได้แก่ธุรกิจอุตสาหกรรมการผลิตและจำหน่ายอะไหล่อิเล็กทรอนิคส์ และธุรกิจเป็นผู้ให้บริการเช่าพื้นที่ป้ายโฆษณานอกบ้าน (Out of Home Media) ประเภทบิลบอร์ด (ธุรกิจบิลบอร์ด) และเพื่อช่วยส่งเสริมให้บริษัท มีศักยภาพในการสร้างความมั่นคงและเสถียรภาพสำหรับการประกอบธุรกิจของบริษัทในระยะยาว
ปัจจุบันบริษัทประกอบธุรกิจอุตสาหกรรมการผลิตและจำหน่ายอะไหล่อิเล็กทรอนิคส์ และธุรกิจบิลบอร์ด ซึ่งบริษัทพิจารณาแล้วเล็งเห็นว่าทั้งสองธุรกิจมีความเสี่ยงที่มีนัยสำคัญต่อการความมั่นคงในการประกอบธุรกิจของบริษัทในระยะยาว โดยบริษัทมีนโยบายที่จะลงทุนในธุรกิจใหม่ซึ่งเป็นธุรกิจที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สามารถก่อให้เกิดรายได้และกระแสเงินสดกับบริษัทได้ในทันที และไม่มีความเสี่ยงที่มีนัยสำคัญที่บริษัทไม่สามารถควบคุมหรือบริหารความเสี่ยงได้ ที่อาจส่งผลให้ธุรกิจดังกล่าวหยุดชะงักในอนาคต
บริษัทอยู่ในระหว่างศึกษาการเข้าซื้อหุ้นบริษัทแห่งหนึ่งซึ่งมีคุณสมบัติตรงกับนโยบายการลงทุนกับบริษัท โดยคาดว่าจะดำเนินการตรวจสอบสถานะกิจการและเจรจาเงื่อนไขการซื้อขายแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4/61 หากบริษัทสามารถเจรจา ตกลงเข้าซื้อหุ้น และลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นได้ บริษัทต้องใช้เงินทุนในการเข้าซื้อหุ้นทันที และหากบริษัทไม่ดำเนินการเพิ่มทุนล่วงหน้า บริษัทจะไม่มีแหล่งเงินทุนมารองรับการเข้าซื้อหุ้นดังกล่าวได้ทันการ
อนึ่ง บริษัทจะดำเนินการเปิดเผยข้อมูลการเข้าลงทุนในบริษัทดังกล่าวเพิ่มเติม เมื่อบริษัทได้เจรจา ตกลงเข้าซื้อหุ้น และได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นของบริษัทดังกล่าวแล้ว ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะใช้เงินทุนในการเข้าลงทุนในจำนวนไม่เกิน 350 ล้านบาท โดยบริษัทจะใช้แหล่งเงินทุนจากการเพิ่มทุนในครั้งนี้ซึ่งคาดว่าจะได้รับเงินเพิ่มทุนจำนวนประมาณไม่เกิน 317 ล้านบาท โดยเงินลงทุนส่วนที่เหลือบริษัทจะใช้แหล่งเงินทุนจากการกู้ยืมและ/หรือกระแสเงินสดภายในของบริษัท
ในกรณีที่บริษัทมีการเจรจาและสามารถต่อรองลดมูลค่าการลงทุนลงและมีเงินทุนจากการเพิ่มทุนคงเหลือ บริษัทจะนำเงินทุนคงเหลือดังกล่าวไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบธุรกิจปัจจุบันและธุรกิจใหม่ของบริษัท นอกจากนั้นในกรณีที่บริษัทไม่สามารถเข้าซื้อหุ้นของบริษัทดังกล่าวได้ บริษัทมีแผนที่จะนำเงินทุนในส่วนที่เพิ่มไปใช้ในการลงทุนในบริษัท และ/หรือธุรกิจอื่น อย่างไรก็ตาม จะเป็นธุรกิจที่มีคุณสมบัติตามนโยบายการขยายธุรกิจของบริษัท