บมจ.ไทรทัน โฮลดิ้ง (TRITN) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันศุกร์ (26 ต.ค.) อนุมัติให้จัดตั้งบริษัทย่อย จำนวน 1 แห่ง ภายใต้ชื่อบริษัท ไทรทัน กรีน เอนเนอร์จี จำกัด ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 10,000 หุ้น พาร์หุ้นละ 100 บาท เพื่อดำเนินธุรกิจพลังงาน พลังงานบริสุทธิ์ การบริหารจัดการขยะด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง และโรงไฟฟ้าขยะ โดยบริษัทจะถือหุ้น 5,099 หุ้น และบริษัท เมอร์คิวรี่ โกลบอล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (MGI) จาก British Virgin Islands (BVI) ถือหุ้น 4,900 หุ้น
สำหรับ MGI มีความเชี่ยวชาญด้านการลงทุน มีความสนใจจะลงทุนในบริษัทที่อยู่ในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้ MGI ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ China Jinjiang Environment Holding Co., Ltd. (Jinjiang) เพื่อกำหนดกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจร่วมกันสำหรับการลงทุนในประเทศไทย และภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในโครงการที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน พลังงานสะอาด และการบริหารจัดการขยะ รวมถึงการทำโรงไฟฟ้าขยะ อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อแปรรูปเป็นพลังงานไฟฟ้า
Jinjiang มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมนี้มากกว่า 30 ปี ปัจจุบันเป็นบริษัท 1 ใน 3 ของประเทศจีนที่ดำเนินอุตสาหกรรมด้านพลังงาน ไฟฟ้าจากขยะโดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยซึ่งไม่ก่อให้เกิดปัญหามลภาวะ ซึ่ง Jinjiang ได้ทำการค้นคว้าวิจัยและได้รับรางวัล Excellence Prize of Patent ของประเทศ และยังได้รับการรับรองให้เป็นเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดขยะ 1 ใน 5 ของโลกอีกด้วย
ทั้งนี้ ความร่วมมือกับ Jinjiang เป็นการดำเนินการผ่านตัวแทนคือ MGI โดยปัจจุบัน Jinjiang ยังเป็นบริษัทที่มีกำลังผลิตไฟฟ้าจากขยะมากที่สุดในจีนและทั่วโลก โดยมีโรงงานไฟฟ้าขยะกว่า 30 แห่งทั่วโลก และมีปริมาณการจัดการและแปลงขยะเป็นไฟฟ้ามากกว่า 20,000 ตันต่อวัน ถือว่า Jinjiang เป็นพันธมิตรที่มีความพร้อมทั้งในด้านเทคนิคและการเงิน ทั้ง Jinjiang และ TRITN เล็งเห็นว่าธุรกิจนี้มีโอกาสเติบโตสูงในประเทศไทย เนื่องจากประเทศไทยมีปริมาณขยะรอการบริหารจัดการอยู่มากกว่า 70,000 ตันต่อวัน ซึ่งธุรกิจไฟฟ้าและการบริหารจัดการขยะ มีรายได้ที่สม่ำเสมอต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยเสริมผลประกอบการจากธุรกิจ ก่อสร้าง ให้มีความมั่นคง
นอกจากนี้ บริษัท ไทรทัน กรีน เอนเนอร์จี จำกัด ยังมีโครงการใน pipeline อยู่มากกว่า 4 โครงการ ซึ่งการจับมือครั้งนี้ จะช่วยเสริมศักยภาพของกลุ่มบริษัทในธุรกิจนี้ และพร้อมที่จะจับมือกับผู้ลงทุนรายอื่น ๆ ในประเทศและภูมิภาค โดยการพลิกโฉมธุรกิจของบริษัทครั้งนี้ เป็นการปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของผู้บริหารที่เน้นการลงทุนในโครงการใหม่ ๆ เพื่อช่วยเสริมผลประกอบการจากธุรกิจก่อสร้าง ปัจจุบัน และมั่นใจว่าการปรับโครงสร้างธุรกิจ และกลยุทธ์บริษัทครั้งนี้ จะเป็นการดำเนินการได้ตามเป้าหมายที่จะให้ครอบคลุมทั้งด้านวิศวกรรมก่อสร้าง พลังงาน และทรัพยากร
คณะกรรมการบริษัทมีมติให้ปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับแผนการขยายธุรกิจ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยให้เปลี่ยนแปลงชื่อ ตราประทับ และวัตถุประสงค์ของบริษัทย่อย จำนวน 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท ไทยไชโย ทีวี จำกัด เปลี่ยนเป็น บริษัท ไทรทัน พาวเวอร์ จำกัด พร้อมทั้งแก้ไขเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ของบริษัทจากธุรกิจสื่อและสิ่งพิมพ์ เป็น ธุรกิจพลังงาน
และบริษัท ป๊อป ทีวี จำกัด เปลี่ยนเป็น บริษัท ไทรทัน รีซอร์สเซส จำกัด พร้อมทั้งแก้ไขเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ของบริษัทจากธุรกิจสื่อและสิ่งพิมพ์ เป็น ธุรกิจเหมืองแร่ และจัดหาวัสดุก่อสร้างทุกประเภท เพื่อรองรับงานรับเหมาก่อสร้างของบริษัทและสามารถตอบสนองความต้องการที่มีอยู่สูงจากการขยายตัวโครงสร้างพื้นฐานในประเทศ และตามแนวโน้มการพัฒนาเมกะโปรเจ็คต์ ซึ่งปัจจุบันได้มีการศึกษาการลงทุนในเหมืองหินและอื่น ๆ คาดว่าจะสามารถลงทุนและเริ่มสร้างรายได้ภายในไตรมาส 1/62
พร้อมทั้งอนุมัติให้เพิ่มสัดส่วนการลงทุนใน บมจ.สเตรกา (Strega) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เป็นราว 92.42% จากเดิมที่อยู่ประมาณ 88.41% ด้วยการเข้าซื้อหุ้นของ Strega จากผู้ถือหุ้นเดิมจำนวน 4.21% คิดเป็นมูลค่า 20 ล้านบาท
นางสาวหลุยส์ เตชะอุบล ประธานกรรมการบริหาร ของ TRITN และทีมผู้บริหาร เชื่อว่าผลจากการปรับโครงสร้างครั้งนี้ จะส่งผลให้ กลุ่มบริษัทขยายผลงานได้อย่างต่อเนื่อง และสร้างผลประกอบการที่มั่นคงและยั่งยืน เป็นที่น่าพอใจสำหรับนักลงทุนใน