บมจ.เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้ (KC) แจ้งว่าตามที่บริษัทเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับคดีหมายเลขดำที่ พ.586/2560 ระหว่างบริษัทซึ่งเป็นโจทก์ กับนายสรรชัย อินทรอักษร จำเลยที่ 1 นายกฤติภัทร (ภัทรภพ) อิทธิสัญญากร จำเลยที่ 2 และนายเทพทิวา บุตรพรม จำเลยที่ 3 ต่อศาลจังหวัดมีนบุรี เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2560 (วันฟ้อง) เป็นคดีแพ่งในข้อหำผิดสัญญา ละเมิด และเรียกค่าเสียหาย โดยมีทุนทรัพย์ทั้งในส่วนของเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นเงินจำนวน 514,409,394 บาท
เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2561 ศาลจังหวัดมีนบุรีกำหนดนัดฟังคำพิพากษา โดยศาลมีคำพิพากษาว่า จำเลยทั้งสามร่วมกันนำเงินของโจทก์ไปอันเป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ให้จำเลยทั้งสามต้องร่วมกันคืนเงินให้แก่โจทก์ โดยศาลได้มีคำสั่งในคำพิพากษาให้จำเลยทั้งสามปฏิบัติตามดังต่อไปนี้ คือ
1) ให้จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ร่วมกันชำระเงิน 414,483,630.46 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีของต้นเงินดังกล่าว นับถัดจากวันฟ้อง เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
2) ให้จำเลยที่ 3 ร่วมรับผิดชำระเงิน 393,136,451.43 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าวนับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
3) ให้จำเลยทั้งสามร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 80,000 บาท
4) คำขออื่นให้ยก
ทั้งนี้ ค่าเสียหายที่โจทก์เรียกถึงวันฟ้องเป็นเงินจำนวน 41,929,682.19 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 นับแต่วันที่จำเลยทั้งสามร่วมกันเบียดบังเงินของโจทก์ไปนั้น ศาลถือว่ามิใช่ค่าเสียหายโดยตรง จึงไม่กำหนดให้จำเลยทั้งสามต้องร่วมรับผิด
บริษัทได้มีการตั้งสำรองหนี้ไว้จำนวน 350,000,000 บาท ซึ่งบริษัทจะรับรู้รายได้ต่อเมื่อจำเลยชำระค่าเสียหาย หากกรณีที่จำเลยไม่ชำระค่าเสียหาย บริษัทจะดำเนินการติดตามทรัพย์ของจำเลยทั้งสามเพื่อนำมาขายทอดตลาด เพื่อนำเงินมำชำระหนี้