บมจ.ผลิตไฟฟ้า (EGCO) แจ้งว่า บริษัท Gen Plus B.V. ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ EGCO จะลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นในสัดส่วน 49% ในบริษัท Paju Energy Service Co.,Ltd. (Paju ES) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท SK E&S Co.,Ltd. (SK E&S) ภายในเดือน พ.ย.61 มูลค่ารวมของรายการคาดว่าไม่เกิน 900 พันล้านวอนเกาหลี หรือประมาณ 26,200 ล้านบาท โดยรายการซื้อขายดังกล่าวคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน ม.ค.62
บริษัท Paju ES เป็นเจ้าของและดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมที่ใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิง ขนาดกำลังการผลิต 2 หน่วย กำลังการผลิตหน่วยละ 911.5 เมกะวัตต์ (MW) คิดเป็นกำลังผลิตรวม 1,823 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ที่เมืองพาจู จังหวัดคย็องกี ประเทศเกาหลีใต้ โดยเริ่มเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ตั้งแต่เดือน ก.พ.60 และจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ Korea Electric Power Corporation ซึ่งเป็นผู้รับซื้อไฟฟ้ารายเดียวในเกาหลีใต้ โดยซื้อขายผ่านตลาดกลางซื้อขายไฟฟ้าของประเทศเกาหลีใต้ (Korea Power Exchange)
สำหรับแหล่งที่มาของเงินทุนในการเข้าซื้อหุ้นในครั้งนี้จะมาจากเงินสดของ EGCO และเงินกู้สำหรับการลงทุน
การลงทุนครั้งนี้จะสร้างโอกาสสำหรับการร่วมทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ LNG การนำเข้า LNG โรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิง และการลงทุนในพลังงานหมุนเวียน และทำให้ EGCO รับรู้รายได้เพิ่ม และยังเป็นการเปิดตลาดในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นตลาดที่มีการเติบโตของความต้องการใช้ไฟฟ้าและพลังงาน
นายจักษ์กริช พิบูลย์ไพโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ของ EGCO กล่าวว่า SK E&S เป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจ LNG ครบวงจร การลงทุนใน Paju ES จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการนำไปสู่ความร่วมมือในการทำธุรกิจ LNG ในประเทศไทย รวมทั้งประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค และในอนาคตจะร่วมกันแสวงหาโอกาสการลงทุนธุรกิจพลังงานหมุนเวียน ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพ ทั้งในเกาหลีและในเอเชียอีกด้วย
"ตลาดพลังงานในประเทศเกาหลีใต้เป็นตลาดที่มีศักยภาพและมีความต้องการใช้ไฟฟ้าเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเกาหลีใต้เป็นประเทศที่ให้ความสำคัญและส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิง LNG และพลังงานหมุนเวียน ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงสะอาด การเข้าลงทุนครั้งนี้จึงนับเป็นก้าวสำคัญของเอ็กโก กรุ๊ป โดยเรามองเห็นโอกาสและความเป็นไปได้ในการผสานจุดแข็งกับ SK E&S เพื่อลงทุนและพัฒนาธุรกิจ LNG ร่วมกันทั้งในประเทศไทยและในเอเชีย ซึ่งมีความต้องการใช้ก๊าซในการผลิตไฟฟ้า เป็นพลังงานสะอาดที่เชื่อถือได้"นายจักษ์กริช กล่าว
นายจักษ์กริช กล่าวว่า สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ของเอ็กโก กรุ๊ป ยังคงเป็นไปตามแผนงาน โดยมีกำไรสุทธิ จำนวน 21,754 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จำนวน 11,744 ล้านบาท หรือคิดเป็น 117% จากการขายสินทรัพย์ 3 โครงการในไตรมาสแรก และหากพิจารณาเฉพาะผลการดำเนินงาน ในไตรมาส 3 บริษัทมีกำไรสุทธิ จำนวน 3,947 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จำนวน 430 ล้านบาท หรือคิดเป็น 12% โดยมีสาเหตุหลักจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน