บมจ.จี เจ สตีล (GJS) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ (19 พ.ย.) อนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2562 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 14 ม.ค.62 เพื่อพิจารณาอนุมัติเรื่องที่เกี่ยวข้องกับแผนการปรับโครงสร้างทุน โดยการล้างส่วนต่ำมูลค่าหุ้นและลดขาดทุนสะสมด้วยการโอนทุนสำรองตามกฎหมาย และลดทุนจดทะเบียน โดยการลดมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (พาร์) และดำเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียนเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการประกอบกิจการของบริษัท โดยบริษัทคาดว่าจากการล้างส่วนต่ำมูลค่าหุ้นและลดขาดทุนสะสมดังกล่าวจะทำให้ฐานะการเงินของบริษัทที่แสดงในงบการเงินสะท้อนสถานะทางการเงินที่แท้จริง และสามารถแก้ไขปัญหาฐานะทางการเงินได้ตามเงื่อนไขของตลาด หลักทรัพย์ฯ เป็นเหตุให้บริษัทหลุดพ้นจากการขึ้นเครื่องหมาย "C"
ขณะเดียวกันการเพิ่มทุน จะทำให้มีเงินทุนเพียงพอเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการของบริษัท และบริษัทคาดว่าจะสามารถสร้างผลกำไรได้ด้วยเงินทุนดังกล่าว รวมถึงเพิ่มโอกาสให้สามารถจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นได้ในอนาคต เมื่อบริษัทมีกำไรจากผลประกอบการ
สำหรับแผนการปรับโครงสร้างทุนดังกล่าว ประกอบด้วย การโอนทุนสำรองตามกฎหมาย (งบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัท สิ้นสุด ณ วันที่ 30 ก.ย.61) จำนวน 18,507,421.67 บาท ไปชดเชยผลขาดทุนสะสม (งบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัท สิ้นสุด ณ วันที่ 30 ก.ย.61) จำนวน 18,507,421.67 บาท ทำให้ภายหลังจากการนำทุนสำรองตามกฎหมายจำนวนดังกล่าวมาชดเชยผลขาดทุนสะสมดังกล่าว บริษัทยังคงมีผลขาดทุนสะสม ที่ยังคงเหลืออยู่จำนวน 20,998,754,065.16 บาท
หลังจากนั้นจะลดทุนจดทะเบียน โดยการลดพาร์จากหุ้นละ 6.90 บาท เป็นหุ้นละ 0.96 บาท ซึ่งจะทำให้ทุนจดทะเบียนของบริษัทลดลงจากเดิม 129,298,350,418.50 บาท เป็นจำนวน 17,989,335,710.40 บาท และจะทำให้ทุนชำระแล้วของบริษัท ลดลงจากเดิมจำนวน 96,104,091,707.70 บาท เป็นจำนวน 13,371,004,063.68 บาท ทั้งนี้ ทุนชำระแล้วที่ลดลงอันเป็นผลจากการลดพาร์ดังกล่าว บริษัทจะนำไปล้างส่วนต่ำมูลค่าหุ้น จำนวนประมาณ 61,757,357,060.14 บาท และลดขาดทุนสะสมจำนวนประมาณ 20,975,730,583.88 บาท ตามลำดับ ซึ่งจะทำให้บริษัทมีผลขาดทุนสะสมเหลือจำนวน 23,023,481.28 บาท
ทั้งนี้ บริษัทจะลดทุนจดทะเบียนจำนวน 1,957,748,965 หุ้น พาร์หุ้นละ 0.96 บาท จากเดิมทุนจดทะเบียน 17,989,335,710.40 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ 16,109,896,704 บาท โดยการตัดหุ้นที่ยังไม่ได้ออกจำหน่ายของบริษัททั้งหมดก่อนที่จะดำเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียนต่อไป ซึ่งการตัดหุ้นที่ยังไม่ได้ออกจำหน่ายของบริษัท จะไม่รวมถึงหุ้นสามัญของบริษัทที่จัดสรรไว้เพื่อรองรับการใช้สิทธิในใบสำคัญแสดงสิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท ครั้งที่ 3 (GJS-W3) และครั้งที่ 4 (GJS-W4)
หลังจากนั้นจะเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทอีกจำนวน 11,490,928,047.36 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 16,109,896,704 บาท เป็นจำนวน 27,600,824,751.36 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 11,969,716,716 หุ้น พาร์หุ้นละ 0.96 บาท แบ่งการจัดสรรได้แก่ 1. เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม ไม่เกิน 11,560,347,263 หุ้น ในอัตราส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 0.83 หุ้นใหม่ ที่ราคาเสนอขายหุ้นละ 0.13 บาท ระหว่างวันที่ 29 มี.ค.-4 เม.ย.62 และ 2. หุ้นเพิ่มทุนส่วนที่เหลือ จัดสรรเพื่อรองรับการปรับสิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิฯ GJS-W3 และ GJS-W4
เมื่อบริษัทดำเนินการเพิ่มทุน ภายใต้สมมติฐานว่าบริษัทมีผู้ถือหุ้นจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนครบทั้งจำนวน บริษัทจะได้รับเงินทุนจากการเพิ่มทุนตามแผนการปรับโครงสร้างทุนครั้งนี้ประมาณ 1,500 ล้านบาท โดยบริษัทจะนำเงินทุนไม่เกิน 40% ของจำนวนเงินที่บริษัทคาดว่าจะได้รับจากการเพิ่มทุนไปชำระคืนหนี้ของบริษัท และบริษัทจะนำเงินทุนส่วนที่เหลือไปเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการของบริษัท ซึ่งจะเป็นการสร้างเสถียรภาพให้กับเงินลงทุนของผู้ถือหุ้น เนื่องจากบริษัทจะมีแหล่งเงินทุนสำหรับนำไปใช้ในการดำเนินธุรกิจ ส่งเสริมให้บริษัทมีศักยภาพในการสร้างความมั่นคงและเสถียรภาพสำหรับการประกอบธุรกิจซึ่งจะสร้างผลกระทบในเชิงบวกแก่ผลประกอบการของบริษัท