นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.บีฟิท (BSEC) ชี้แจงว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทประจำปี 2550 ปรากฎตามงบกำไรขาดทุนก่อนตรวจสอบ มีกำไรสุทธิจำนวน 139.106 ล้านบาท ลดลง 43.78% เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิในปี 2549 ที่มี 249.423 ล้านบาท หรือคิดเป็นกำไรต่อหุ้นของปี 2550 เท่ากับ 0.17 บาทต่อหุ้น ลดลงจากปี 2549 ที่มีจำนวน 0.54 บาทต่อหุ้น
ทั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องจากรายได้รวมของบริษัทลดลง 51.10 ล้านบาทหรือลดลงร้อยละ 6.70 เมื่อเทียบกับรายได้รวมปี 2549 โดยที่รายได้หลักของบริษัทกล่าวคือค่านายหน้าจาการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทลดลง 84.20 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบจาก 694.42 ล้านบาทในปี 2549 เป็น 610.22 ล้านบาทในปี 2550 หรือลดลงร้อยละ 12.13 ซึ่งรายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์นี้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากภาวการณ์ซื้อขายหลักทรัพย์โดยรวมของตลาดที่ค่อนข้างเบาบาง เนื่องจากหลายปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ อาทิ ปัญหาการเมืองภายในประเทศ การเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลก ตลอดจนปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกา (Subprime Crisis) ซึ่งมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อบรรยากาศการลงทุนทั่วโลกเป็นต้น และยังส่งผลให้การลงทุนของบริษัทรับรู้ผลขาดทุนจากการซื้อขายหลักทรัพย์ในปีปัจจุบันจำนวน 12.48 ล้านบาท
ด้านรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการเพิ่มขึ้นจาก 10.43 ล้านบาทในปี 2549 เป็นจำนวน 24.44 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้นจำนวน 14.01 ล้านบาท ซึ่งรายได้ส่วนนี้เป็นผลจากธุรกรรมวานิชธนกิจของบริษัทซึ่งเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปลายปี 2549 ที่ผ่านมา รายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลเพิ่มขึ้น 6.54 ล้านบาท นอกจากนี้รายได้ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 19.20 ล้านบาทอันเป็นผลจากการบริหารจัดการการให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์จากธุรกรรมซื้อขายหลักทรัพย์แก่ลูกค้า
ค่าใช้จ่ายรวมของบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นร้อยละ 23.67 โดยเพิ่มขึ้นจาก 420.12 ล้านบาทในปี 2549 เทียบกับ 519.95 ล้านบาทในปี 2550 หรือเพิ่มขึ้นจำนวน 99.53 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายหลักที่มีการเปลี่ยนแปลงได้แก่ ค่าธรรมเนียมและบริการจ่ายเพิ่มขึ้น 32.46 ล้านบาทซึ่งเป็นผลจากการที่บริษัทมุ่งเน้นในส่วนของระบบซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านอินเตอร์เน็ต ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานเพิ่มขึ้น 67.90 ล้านบาทเนื่องจากการปรับขึ้นเงินเดือนประจำปี การเพิ่มขึ้นของจำนวนพนักงานโดยเฉพาะสายงานการตลาดซึ่งทำให้มีค่าตอบแทนพนักงานในระบบ Incentive Based สูงขึ้นเป็นต้น นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอาคารสถานที่และอุปกรณ์เพิ่มขึ้น 11.98 ล้านบาท เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนพนักงานและสาขาในปี 2550
อย่างไรก็ตามค่าใช้จ่ายในการกู้ยืมเงินลดลง 13.98 ล้านบาทเนื่องจากบริษัทได้ชำระคืนเงินกู้ยืมด้อยสิทธิและหุ้นกู้ด้อยสิทธิเรียบร้อยแล้วในปี 2549 ทำให้ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยในส่วนนี้หมดไป เหลือเพียงดอกเบี้ยที่จ่ายจากธุรกรรมซื้อขายหลักทรัพย์ให้แก่ลูกค้าบริษัทเท่านั้น ภาษีเงินได้นิติบุคคลปี 2550 ลดลง 42.31 ล้านบาท
ล่าสุดหุ้น BSEC ปิดเทรดเช้านี้ที่ 3.38 บาท ลดลง 0.02 บาท(-0.59%)
--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--