(เพิ่มเติม) ตลท.รับหลักทรัพย์ STI เข้าซื้อขายใน mai วันที่ 19 ธ.ค.61

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday December 18, 2018 17:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) รับหลักทรัพย์ประเภทหุ้นสามัญของ บมจ.สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ ใช้ชื่อย่อหลักทรัพย์ STI เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในกลุ่มอุตสาหกรรม อสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง กำหนดวันที่เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนและเริ่มทำการซื้อขายในวันที่ 19 ธ.ค.61 มีจำนวนหุ้นจดทะเบียนกับ ตลท.และหุ้นชำระแล้ว จำนวน 268 ล้านหุ้น ราคาพาร์หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นทุนชำระแล้ว 134 ล้านบาท

STI ดำเนินธุรกิจที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงานก่อสร้าง และให้บริการออกแบบงานด้านสถาปัตยกรรมและวิศวกรรม งานตกแต่งภายใน และงานอนุรักษ์โบราณสถาน โดยบริษัทเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 68 ล้านหุ้น ที่ราคา IPO หุ้นละ 6.30 บาท ระหว่างวันที่ 6-11 ธ.ค.61

นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า STI ประกอบธุรกิจที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงานก่อสร้าง โดยมุ่งเน้นธุรกิจการบริหารโครงการก่อสร้างทุกประเภท เช่น โครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบและแนวสูง อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า โรงแรม โดยมีผลงานในช่วงที่ผ่านมา อาทิ ห้างสรรพสินค้าดิเอ็มควอเทียร์ ห้างสรรพสินค้าเทอร์มินัล 21 (โคราช) อาคารสำนักงาน Pearl Bangkok โครงการปรับปรุงอาคารเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ ศูนย์การค้า Bluport Resort Mall หัวหิน เป็นต้น

นอกจากนี้ STI ยังมีบริษัทย่อย คือ บริษัท สโตนเฮ้นจ์ จำกัด ประกอบธุรกิจให้บริการออกแบบงานด้านสถาปัตยกรรมและวิศวกรรมของโครงการก่อสร้าง งานตกแต่งภายใน และงานอนุรักษ์โบราณสถาน ถือเป็นผู้ประกอบการที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักในแวดวงธุรกิจดังกล่าว มีผลงานที่เป็นที่รู้จักโดยทั่วไป อาทิ อาคารร้อยปี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร วังกรมพระนเรศรวรฤทธิ์ (วังมะลิวัลย์) สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินวังบูรพา (รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน) เป็นต้น

STI มีทุนชำระแล้ว 134 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 200 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 68 ล้านหุ้นที่เสนอขาย IPO ในราคาหุ้นละ 6.30 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุนราว 428 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,688 ล้านบาท มีบริษัท เจย์ แคปปิตอล แอดไวเซอรี จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

นายสมเกียรติ ศิลวัฒนาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ STI เปิดเผยว่า บริษัทให้ความสำคัญด้านควบคุมคุณภาพและมาตรฐานงานบริการเพื่อบริหารและควบคุมงานก่อสร้างของโครงการให้สำเร็จตามเป้าหมายตามที่เจ้าของโครงการกำหนดไว้ ทั้งด้านระยะเวลา ต้นทุน และคุณภาพ มีการนำระบบสารสนเทศ และนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมงานก่อสร้างมาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

นอกจากนั้น บริษัทยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากร โดยจัดทำหลักสูตรการฝึกอบรมพนักงานและพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ของตนเองเพื่อสนับสนุนธุรกิจที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงานก่อสร้าง ทั้งนี้ บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปลงทุนจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมและพัฒนา อบรมทักษะความรู้สำหรับพนักงาน ลงทุนอุปกรณ์ระบบคอมพิวเตอร์ โปรแกรมด้านการออกแบบควบคุมงาน และการเงิน-การบัญชี ลงทุนระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ

STI มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ บริษัท ยูนิเวนเจอร์ แคปปิตอล จำกัด ถือหุ้น 26.12% กลุ่มตระกูลศิลวัฒนาวงศ์ ถือหุ้น 15.07% และกลุ่มตระกูลเปี่ยมเปรมสุข ถือหุ้น 11.19% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO ที่ 6.30 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ที่ 29.76 เท่า โดยคำนวณจากผลประกอบการของบริษัทในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา (1 ต.ค.60-30 ก.ย.61) ซึ่งเท่ากับ 56.73 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.21 บาท

ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิภายหลังจากหักภาษี และทุนสำรองตามกฎหมาย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ