บมจ.แพลน บี มีเดีย (PLANB) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา อนุมัติให้บริษัท มาสเตอร์ สแตนดาร์ด ดิสเพลย์ จำกัด (เอ็มเอสดี) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เข้าลงทุน 50% ในบริษัท ดิจิทัล แฟคตอรี่ จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการสื่อโฆษณาออนไลน์ ด้วยเงินลงทุน 5 ล้านบาท และเข้าลงทุน 50% ในบริษัท ไซน์ เวิร์ค มีเดีย จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการ พัฒนาและจัดหาสื่อโฆษณาบนจอภาพบริเวณพื้นที่ท่าอากาศยาน ด้วยเงินลงทุน 1 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันได้ลงนามสัญญาซื้อหุ้นของทั้งสองบริษัทแล้ว และคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในไตรมาส 1/62 โดยเงินลงทุนจะมาจากกระแสเงินสดของบริษัท
ทั้งนี้ การลงทุนในบริษัท ดิจิทัล แฟคตอรี่ จำกัด จะช่วยเพิ่มศักยภาพของบริษัท ในการขยายธุรกิจสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัยให้ครอบคลุมถึงการให้บริการสื่อโฆษณาออนไลน์ เพื่อตอบสนองความต้องของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยปัจจุบันดิจิทัล แฟคตอรี่ มีฐานลูกค้าที่ได้มีการลงนามในสัญญาเพื่อใช้บริการสื่อโฆษณาออนไลน์อยู่แล้ว ส่วนการลงทุนในบริษัท ไซน์ เวิร์ค มีเดีย จำกัด จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการขยายธุรกิจสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัยให้ครอบคลุมถึงการให้บริการสื่อโฆษณาภายในท่าอากาศยานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
โดยไซน์ เวิร์ค มีเดีย เป็นผู้ได้รับสัมปทานโครงการพัฒนาป้ายแสดงหมายเลขประตูทางเข้า และรายชื่อสายการบิน บริเวณผู้โดยสารขาออก โดยมีอายุสัญญา 5 ปี นับตั้งแต่วันที่เริ่มโฆษณาประชาสัมพันธ์ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มให้บริการโฆษณาได้ประมาณเดือน ม.ค.62 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ ยังอนุมัติให้บริษัท มาสเตอร์ สแตนดาร์ด ดิสเพลย์ จำกัด ลงทุนจัดตั้งบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่จำนวน 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท แอทมอส สปอร์ต แล็บ จำกัด ทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท เพื่อทำธุรกิจจัดหา นำเข้า จัดจำหน่ายสินค้าประเภทกีฬาและแฟชั่นภายใต้แบรนด์ "ATMOS"เพื่อสร้างโอกาสและความหลากหลายทางธุรกิจ และเพิ่มศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจ โดยกลุ่มบริษัทจะถือหุ้นในบริษัทร่วมทุนใหม่ในสัดส่วน 36.9% ขณะที่บริษัท แอทมอส (แบงคอก) จำกัด ถือหุ้น 51% ,นางอรพรรณ มนต์พิชิต บวรวัฒนะ ถือหุ้น 10% ส่วนที่เหลือเป็นผู้ถือหุ้นรายย่อย 2.1% คาดว่าจะดำเนินการจัดตั้งบริษัทใหม่แล้วเสร็จภายในไตรมาส 1/62
ส่วนบริษัท แอทมอส แอพพาเรล จำกัด มีทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท ทำธุรกิจจัดหา นำเข้า จัดจำหน่ายสินค้าประเภทกีฬาและแฟชั่น โดยกลุ่มบริษัทถือหุ้น 44.9% ,บริษัท แอทมอส (แบงคอก) จำกัด ถือหุ้น 30% ,นางอรพรรณ มนต์พิชิต บวรวัฒนะ ถือหุ้น 20%, นางสาวมนทรัตน โคมสวัสดิชัย ถือหุ้น 5% ส่วนที่เหลือเป็นผู้ถือหุ้นรายย่อย 0.1%
นายปรินทร์ โลจนะโกสินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ PLANB เปิดเผยว่า ปี 62 บริษัทยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาและเพิ่มความหลากหลายของสื่อโฆษณาในทุกประเภท เพื่อสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทางการตลาดที่คลอบคลุมยิ่งขึ้น โดยตั้งเป้าหมายการเพิ่มพื้นที่ให้บริการสื่อโฆษณาในปี 62 เพิ่มขึ้น 12-15% ประกอบกับการพัฒนาธุรกิจ Engagement Marketing เพื่อยกระดับประสิทธิภาพของการสื่อสารระหว่างผู้บริโภคกับสินค้าและบริการด้วยคอนเทนต์ที่คุณภาพทั้งดนตรี กีฬา และ อีสปอร์ต ซึ่งทั้งสองธุรกิจหลักเป็นพื้นฐานสำคัญที่ช่วยสร้างรายได้รวมของบริษัทใน 62 เป็นไปตามเป้าหมายที่ 5,000 ล้านบาท
สำหรับการลงทุนธุรกิจสื่อโฆษณาในสนามบิน โดยการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน 50% ในซายน์ เวิร์คส หลังจากการควบรวมกิจการบริษัทมีแผนเข้าลงทุนกว่า 60 ล้านบาท เพื่อติดตั้งจอดิจิทัลโครงการสุวรรณภูมิดิจิทัลโปสเตอร์ขนาดใหญ่จำนวน 38 ป้าย บริเวณทางเข้าโถงผู้โดยสารขาออกทุกประตูของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นบริเวณที่นักเดินทางทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติทุกคนต้องสัญจรผ่าน และมีศักยภาพสูงในการพัฒนาพื้นที่สื่อโฆษณาฯ ทั้งนี้เมื่อเปิดให้บริการจะมีกำลังการผลิตสื่อโฆษณามูลค่ารวม 50 ล้านบาท/ปี
ธุรกิจสื่อโฆษณาออนไลน์ โดยการเข้าซื้อหุ้น 50% ในดิจิตอล แฟคตอรี่ ซึ่งเป็นบริษัทสื่อโฆษณาออนไลน์ที่มีบริการครบ 360 องศา ตั้งแต่การศึกษาวิจัยตลาดจาก big data, การวางแผนแคมเปญออนไลน์, การผลิตคอนเทนต์ (แบนเนอร์, อาร์ทเวิร์ค, เวปไซต์, หนังโฆษณา, และอื่นๆ) ไปจนถึงการซื้อสื่อออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดทั้งในเชิงต้นทุนและคุณภาพ
ส่วนธุรกิจนำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าเพื่อสนับสนุนการตลาดแบบมีส่วนร่วม โดยร่วมลงทุนจัดตั้งบริษัท แอทมอส สปอร์ต แล็บ จำกัด และบริษัท แอทมอส แอพพาเรล จำกัด ในสัดส่วน 36.9% และ 44.9% ตามลำดับ โดยแอทมอสสปอร์ต เป็นเจ้าของแบรนด์ร้าน ATMOS ผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายที่รวบรวมสินค้าเสื้อผ้า และรองเท้าจากแบรนด์ชั้นนำ อาทิ Nike, Adidas, Puma โดยเฉพาะในรุ่นพิเศษที่ไม่มีจำหน่ายในร้านค้าทั่วไป ซึ่งในปัจจุบันเปิดใหบริการใน 4 ประเทศ ได้แก่ ญี่ป่น เกาหลีใต้ นิวยอร์ก,สหรัฐอเมริกา และได้เปิดบริการสาขาล่าสุดที่เซ็นทรัลเวิล์ด ในประเทศไทย
ทั้งนี้ ด้วยความเชี่ยวชาญในการบริหารและจัดการสินค้าแฟชั่นและสินค้ารุ่นพิเศษ แอทมอสสปอร์ต และแอทมอสแอพพาเรล จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการภายใต้สิทธิ์ทางการค้าที่แพลนบีเป็นผู้บริหาร โดยบริษัทมีแผนการใช้เงินลงทุนรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 30 ล้านบาทสำหรับทั้งสองบริษัท
นายปรินทร์ กล่าวว่า การขยายธุรกิจของบริษัทผ่านการลงทุนใน 4 บริษัทข้างต้นนี้ถือเป็นการขยายความหลากหลาย เพิ่มประสิทธิภาพของสื่อโฆษณาให้มีความครอบคลุม และต่อยอดธุรกิจการตลาดแบบมีส่วนร่วม เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพในการหารายได้ของแพลนบีในทุกๆด้าน ดังนี้ การเพิ่มความหลากหลายของสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัยที่ให้บริการ โดยการลงทุนใน ซายน์ เวิร์คส นับเป็นการควบรวมกิจการผู้ให้บริการสื่อโฆษณาในสนามบินครั้งที่ 6 ของบริษัท เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายการเพิ่มปริมาณสื่อโฆษณาพร้อมให้บริการ (Media Capacity) มูลค่ากว่า 500 ล้านบาทต่อปีภายในปี 63
ปัจจุบันบริษัทมีสื่อโฆษณาให้บริการครบทุกสนามบิน ประกอบด้วย 6 สนามบินของบมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) และ 25 สนามบินของกรมท่าอากาศยาน อีกทั้งยังให้บริการสื่อโฆษณาในสนามบินที่มีความหลากหลายครบทุกรูปแบบ ทั้งป้ายโฆษณาดิจิทัลแบบสัมผัส ป้ายโฆษณาดิจิทัล ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ ป้ายไฟขนาดกลางและเล็ก สื่อโฆษณาบนรถเข็นกระเป๋าผู้โดยสาร
การให้บริการสื่อออนไลน์จากการลงทุนในดิจิทัล แฟตอรี่นับเป็นการเพิ่มความหลายหลายของธุรกิจนอกเหนือไปจากสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัยที่เป็นธุรกิจหลักของบริษัท ซึ่งจะช่วยให้แพลนบีสามารถใช้ประโยชน์จากสื่อออนไลน์เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิทัล 4.0 ได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ทั้งการนำสื่อออนไลน์มาบูรณาการกับสื่อนอกที่อยู่อาศัยเพื่อผลักดันการขายสื่อเดิม และในส่วนของการเพิ่มโซลูชั่นออนไลน์ (online solution) ในการนำเสนอแคมเปญ เพื่อให้การทำการตลาดของลูกค้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งมูลค่าตลาดสื่อโฆษณาออนไลน์มีมูลค่ามากกว่า 12,000 ล้านบาทในปี 60 และมีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วกว่า 20% ต่อปี
การต่อยอดธุรกิจการตลาดแบบมีส่วนร่วม จากเดิมที่รายได้หลักของการตลาดแบบมีส่วนร่วมมาจากรายได้การสนับสนุนของสปอนเซอร์ บริษัทจึงมีเป้าหมายการเพิ่มสัดส่วนรายได้จากสินค้าและบริการให้สูงขึ้น ดังนั้นการลงทุนใน แอทมอสสปอร์ต และ แอทมอสแอพพาเรล ซึ่งมีประสบการณ์ในการบริหารสินค้าแฟชั่นชั้นนำและประสบความสำเร็จอย่างสูงในต่างประเทศ จะสามารถช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการต่างๆ ที่จำหน่ายภายใต้คอนเท้นท์ที่มีคุณภาพที่บริษัทมีสิทธิในการบริหาร อาทิ BNK48 และอีสปอร์ต