บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) แจ้งว่าโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ของโครงการสหกรณ์การเกษตรชนแดน โครงการสหกรณ์การเกษตรบ้านนาเดิม และโครงการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ในพระบรมราชูปถัมภ์ สำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตชลบุรี ซึ่งเป็นโครงการโรงไฟฟ้าของบริษัทและบริษัทย่อย ได้จำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) แล้ว ในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินสำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร พ.ศ. 2560 เป็นระยะเวลา 25 ปี
สำหรับทั้ง 3 โครงการ มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 10.83 เมกะวัตต์ โดยโครงการสหกรณ์การเกษตรชนแดน ขนาด 2.25 เมกะวัตต์ เริ่ม COD วันที่ 3 ธ.ค.61 ในจ.เพชรบูรณ์ , โครงการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ในพระบรมราชูปถัมภ์ สำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตชลบุรี ขนาด 3.58 เมกะวัตต์ เริ่ม COD วันที่ 24 ธ.ค.61 ในจ.ฉะเชิงเทรา และโครงการสหกรณ์การเกษตรบ้านนาเดิม ขนาด 5 เมกะวัตต์ เริ่ม COD วันที่ 25 ธ.ค.61 ในจ.สุราษฎร์ธานี
ทั้งนี้ โครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั้ง 3 โครงการข้างต้น เป็นโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จากทั้งหมด 7 โครงการ ที่มีกำหนดจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ภายในปี 61 โดยอีก 4 โครงการที่เหลือ ประกอบด้วย โครงการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ในพระบรมราชูปถัมภ์ สำนักงานกิจการการเกษตรการอุตสาหกรรมและการบริการ, โครงการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ในพระบรมราชูปถัมภ์ โรงพยาบาลทหารผ่านศึก, โครงการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ในพระบรมราชูปถัมภ์ สำนักงานกิจการโรงงานในอารักษ์ และโครงการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ในพระบรมราชูปถัมภ์ สำนักงานรักษาความปลอดภัย กำลังการผลิตรวม 20 เมกะวัตต์ มีกำหนดเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ในวันที่ 28 ธ.ค.61
นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ BGRIM เปิดเผยว่า โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินสำหรับสหกรณ์ภาคการเกษตรและองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก 7 โครงการรวมกำลังการผลิต 30.8 เมกะวัตต์ ได้ทยอย COD แล้ว 3 โครงการรวม 10.8 เมกะวัตต์ ส่วนอีก 4 โครงการที่เหลือ รวมกำลังการผลิต 20 เมกะวัตต์ ได้ผ่านการทดสอบการขนานระบบไฟฟ้าเข้าระบบของการไฟฟ้านครหลวงแล้ว พร้อม COD ภายในวันที่ 28 ธ.ค.61 ทำให้ในปีนี้กำลังการผลิตติดตั้งของ BGRIM เติบโตถึง 26% เป็น 2,076 เมกะวัตต์ตามแผน
สำหรับโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศเวียดนามซึ่งมีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 677 เมกะวัตต์ มีความคืบหน้าในการก่อสร้างตามแผนในอัตรา 42% สำหรับโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Dau Tieng 1 and Dau Tieng 2 Solar Plants กำลังการผลิตติดตั้ง 420 เมกะวัตต์ และความคืบหน้าการก่อสร้าง 36% สำหรับโครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน Phu Yen TTP กำลังการผลิต 257 เมกะวัตต์ จังหวัดฟูเยี้ยน สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยยืนยันเป้าหมายการ COD ภายในกลางปีหน้า
นางปรียนาถ กล่าวว่า ปีหน้าจะเป็นปีที่จะโดดเด่นยิ่งกว่าปีนี้ ด้วยกำลังการผลิตติดตั้งที่จะเติบโตถึง 34% เป็น 2,773 เมกะวัตต์ ตามกำหนดการ COD ของโครงการต่าง ๆ ที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง โดยนอกจากโครงการในเวียดนามแล้วยังมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ Nam Che ในลาว และโครงการขยะอุตสาหกรรมด้วย ซึ่งจะหนุนรายได้ขยายตัวสู่เป้า 42,000 ล้านบาทในปี 62
นอกจากสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ในมือที่จะดันกำลังการผลิตติดตั้งให้ทะลุ 3,000 เมกะวัตต์ในปี 64 และบริษัทอยู่ระหว่างศึกษาโครงการในเกาหลีใต้ ไต้หวัน เวียดนาม มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ โดยมั่นใจบริษัทจะขยายตัวอย่างต่อเนื่องไปสู่เป้ากำลังการผลิตติดตั้ง 5,000 เมกะวัตต์ภายในปี 65
ปัจจุบัน BGRIM มีโรงไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แล้วทั้งสิ้น 36 แห่ง แบ่งเป็น โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม 15 แห่ง โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 18 แห่ง โรงไฟฟ้าพลังน้ำ 2 แห่ง และ โรงไฟฟ้าพลังงานดีเซล 1 แห่ง ตั้งอยู่ในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมกว่า 2,056 เมกะวัตต์ และมีโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างแผนการก่อสร้างในระหว่างปี 62-65 อีกกว่า 1,070 เมกะวัตต์