บมจ.อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค (ECF) แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ (16 ม.ค.) ให้ปรับเงื่อนไขการเข้าซื้อกิจการ บริษัท เอสเทรค (ประเทศไทย) จำกัด (S-TREK) โดยให้ยกเลิกมติของที่ประชุมคณะกรรมการครั้งที่ 13/2561 เมื่อ 30 พ.ย.61 ในการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ของ ECF (Share swap) ให้กับนายจิรศักดิ์ เปรมพจน์วัฒนา ผู้ขายหุ้น S-TREK เนื่องจากราคาหุ้นของบริษัทปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญมาอยู่ที่ 2.28 บาท/หุ้น จากระดับ 5.99 บาท/หุ้น ณ วันที่ 30 พ.ย.61 ทำให้นายจิรศักดิ์ขอให้มีการเจรจาเงื่อนไขการลงทุนใน S-TREK ใหม่
ทั้งนี้ บริษัทยังคงเล็งเห็นศักยภาพใน S-TREK ทำให้บริษัทจึงยังคงเข้าลงทุนในหุ้นสามัญ STREK ในสัดส่วนไม่เกิน 51% จากผู้ถือหุ้นเดิม คือ นายจิรศักดิ์ จึงได้เข้าเจรจาเงื่อนไขใหม่การลงทุนใน S-TREK ซึ่งบริษัทจะยังคงลงทุน จำนวน 15.3 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 33.33 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 510 ล้านบาทตามเดิม
ขณะที่วิธีการซื้อหุ้น S-TREK ยังคงแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ในราคาหุ้นที่เท่ากับหุ้นละประมาณ 33.33 บาท และจะชำระค่าหุ้นของ S-TREK ด้วยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ของบริษัท ทั้ง 2 ส่วน แต่จะลดสัดส่วนการซื้อหุ้นของ S-TREK ลงในส่วนที่ 1 จากเดิม 35.70% เป็น 20.40% มูลค่ารวม 204 ล้านบาท และจะเพิ่มสัดส่วนการซื้อหุ้นของ S-TREK ในส่วนที่ 2 จากเดิม 15.30% เป็น 30.60% คิดเป็นมูลค่า 306 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทจะพิจารณาออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อจัดสรรให้แก่ผู้ขายซึ่งเป็นบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) คือ นายจิรศักดิ์ จำนวน 40.8 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท โดยกำหนดราคาหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ 5 บาท/หุ้น หรือคิดเป็นมูลค่า 204 ล้านบาทแทน จากเดิมจะออกหุ้นเพิ่มทุน 51 ล้านหุ้น เสนอขายหุ้นละ 7 บาท คิดเป็นมูลค่า 357 ล้านบาท
โดยการเสนอขายหุ้นสามัญให้นายจิรศักดิ์ ดังกล่าวเพื่อเป็นการชำระค่าหุ้น S-TREK ในส่วนที่ 1 คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/62 ขณะที่การชำระค่าหุ้น S-TREK ในส่วนที่ 2 จะออกหุ้นเพิ่มทุนของบริษัท ในราคาเสนอขายเท่ากับราคาตลาดของหุ้นของบริษัท ณ ขณะที่เสนอขาย คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 2/65
คณะกรรมการ อนุมัติให้ลดทุนจดทะเบียนโดยตัดหุ้นที่ยังไม่ได้นำออกจำหน่าย หลังจากนั้นให้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 322.66 ล้านบาท จากเดิม 285.71 ล้านบาท โดยออหุ้นใหม่ 147.8 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 0.25 บาท แบ่งเป็น การจัดสรร 40.8 ล้านหุ้น ให้กับนายจิรศักดิ์ เพื่อชำระค่าหุ้นส่วนที่ 1 ใน S-TREK ที่ราคาหุ้นละ 5 บาท ,จัดสรร 12 ล้านหุ้น เพื่อรองรับการปรับสิทธิ ECF-W3 ส่วนหุ้นเพิ่มทุนที่เหลือไม่เกิน 95 ล้านหุ้น จะเป็นการเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนให้กับกิจการ เพิ่มสภาพคล่องให้แก่บริษัท รวมทั้งเพื่อเป็นเงินทุนสำหรับการขยายธุรกิจหลัก
นายอารักษ์ สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ ของ ECF เปิดเผยว่า การปรับวิธีการชำระค่าหุ้น S-TREK ดังกล่าวบริษัทได้พิจารณาเพื่อให้การเข้าซื้อกิจการดำเนินไปได้แผนงานที่วางไว้ และเพื่อให้เกิดความยุติธรรมต่อผู้ขาย คือนายจิรศักดิ์ ในฐานะผู้ขายและผู้ถือหุ้นใหญ่ของ S-TREK บริษัทจึงขอพิจารณาอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทใหม่อีกครั้ง โดยในครั้งนี้ราคาตลาดของบริษัทที่ใช้ในการพิจารณาอนุมัติอยู่ที่ 2.28 บาท/หุ้น ซึ่งมติที่ประชุมคณะกรรมการอนุมัติการออกหุ้นเพื่อชำระราคาให้กับ S-TREK ที่ 5 บาท/หุ้น ในจำนวน 40.8 ล้านหุ้น สำหรับการจ่ายชำระราคาในส่วนที่ 1
สำหรับการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้และส่วนแบ่งกำไรทันทีในปี 62 โดยในปี 60 ที่ผ่านมา STREK มีรายได้รวมประมาณ 4,848 ล้านบาท ดังนั้น การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ จึงถือเป็นกลยุทธ์สำคัญในการสร้างการเติบโต โดยจะส่งผลต่อตัวเลขการดำเนินงานของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ
S-TREK เป็นผู้ดำเนินธุรกิจด้าน IT Solution ในการเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าไอที ให้กับบริษัทชั้นนำระดับโลก มายาวนานกว่า 30 ปี รวมถึงมีช่องทางการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศไทย โดยมีผลิตภัณฑ์พร้อมจำหน่ายมากกว่า 5,000 รายการ และมีกลุ่มลูกค้าทั้งในกรุงเทพมหานครและทั่วประเทศไทย มากกว่า 4,000 ร้านค้า