บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) หรือเอสซีจี แจ้งว่าธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจหลักของ SCC ได้บรรลุข้อตกลงการเข้าซื้อหุ้นกิจการ 2 แห่งในธุรกิจบริการด้านโลจิสติกส์ จากปัจจุบันที่ถืออยู่แล้วร้อยละ 50 เป็นร้อยละ 100 โดยมูลค่าทางบัญชีของทั้งสองบริษัทตามงบการเงินสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2560 ซึ่งผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีแล้วเท่ากับ 131 ล้านบาท คาดว่าจะดำเนินธุรกรรมแล้วเสร็จภายในไตรมาส 1/62 โดยการเข้าซื้อหุ้นกิจการดังกล่าว ได้แก่
1) การเข้าถือหุ้นทั้งหมดในบริษัท ไทยพรอสเพอริตีเทอมินอล จำกัด (TPT) โดยได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นกับบริษัท ปัญจมิตร โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นเดิมของ TPT ผ่านบริษัท เอสซีจีเทรดดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ SCC ถือหุ้นร้อยละ 99.97 ปัจจุบัน TPT ดำเนินธุรกิจด้านการบริหารจัดการท่าเรือพาณิชย์รวม 2 แห่ง ได้แก่ ท่าเรือพระประแดง และท่าเรือมาบตาพุด ซึ่งให้บริการทั้งเพื่อการนำเข้าและส่งออก โดยคาดว่าในปี 2561 TPT จะมีรายได้ประมาณ 380 ล้านบาท และสินทรัพย์ รวมประมาณ 343 ล้านบาท
2) การเข้าถือหุ้นทั้งหมดในบริษัท บางกอก อินเตอร์ เฟรท ฟอร์เวิร์ดดิ้ง จำกัด (BIFC) โดยได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นกับบริษัท โงวฮก จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นเดิมของ BIFC ผ่านบริษัท เอสซีจี โลจิสติกส์ แมเนจเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ SCC ถือหุ้นทั้งหมด ปัจจุบัน BIFC ดำเนินธุรกิจด้านการขนส่งและขนถ่ายตู้สินค้าทางน้าที่ท่าเรือของ TPT ทั้งนี้ คาดว่าในปี 2561 BIFC จะมีรายได้ประมาณ 142 ล้านบาท และสินทรัพย์รวมประมาณ 76 ล้านบาท
การเข้าถือหุ้นทั้งหมดใน 2 กิจการข้างต้นจะเพิ่มขีดความสามารถของการให้บริการด้านโลจิสติกส์แบบครบวงจรของ SCC ซึ่งครอบคลุมการให้บริการท่าเรือ การขนถ่ายสินค้านำเข้า-ส่งออกระหว่างประเทศ รวมถึงการใช้ประโยชน์ของสินทรัพย์และการขยายการบริการขนส่งระหว่างท่าเรือภายในประเทศด้วย