ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) รับหลักทรัพย์บมจ.โกลบอล เซอร์วิส เซ็นเตอร์ ใช้ชื่อย่อหลักทรัพย์ GSC เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ กำหนดวันที่เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนและเริ่มทำการซื้อขาย ในวันที่ 13 มี.ค.62 โดยมีจำนวนหุ้นจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์และจำนวนหุ้นชำระแล้ว 250 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นทุนชำระแล้ว 125 ล้านบาท
ทั้งนี้ GSC ซึ่งประกอบธุรกิจศูนย์บริการข้อมูล และธุรกิจติดตามและทวงถามหนี้ ได้เสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 90 ล้านหุ้น จัดสรรให้แก่ประชาชนทั่วไป 63 ล้านหุ้น และผู้ถือหุ้นเดิมของบมจ.เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป (ACAP) จำนวน 27 ล้านหุ้น ที่ราคาเสนอขาย IPO หุ้นละ 1.70 บาท ระหว่างวันที่ 4-6 มี.ค.62
นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เปิดเผยว่า GSC ดำเนินธุรกิจศูนย์บริการข้อมูล (Call Center Service) โดยให้บริการรับสายเรียกเข้า และบริการโทรออกไปยังกลุ่มเป้าหมายของผู้ว่าจ้าง มีการให้บริการ ณ สำนักงานของบริษัท และการจัดหาเจ้าหน้าที่ไปปฏิบัติงานที่สำนักงานของผู้ว่าจ้าง และธุรกิจติดตามทวงถามหนี้ (Collection Service) โดยบริษัทเป็นผู้ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้ ตามพระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) ซึ่งบริษัทจะให้บริการติดตามและทวงถามหนี้ทางโทรศัพท์ การส่งจดหมาย และการส่งข้อความ SMS เท่านั้น
GSC มีทุนชำระแล้ว 125 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 160 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 90 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 27 ล้านหุ้นต่อผู้ถือหุ้นของ ACAP (Pre-emptive Right) เมื่อวันที่ 27 ก.พ.-1 มี.ค. และเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 63 ล้านหุ้น ต่อผู้มีอุปการคุณของบริษัท และบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 4-6 มี.ค. ในราคาเดียวกันที่ 1.70 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 153 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 425 ล้านบาท มีบริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบล.เออีซี เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
ด้านนางสาวสุกัญญา สุขเจริญไกรศรี ประธานกรรมการบริหาร ของ GSC เปิดเผยว่า บริษัทมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจศูนย์บริการข้อมูล และธุรกิจติดตามและทวงถามหนี้มานานกว่า 14 ปี ให้บริการแก่หน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ในหลากหลายภาคธุรกิจ อาทิ กลุ่มธุรกิจสื่อสารและโทรคมนาคม อสังหาริมทรัพย์ และการเงิน นอกจากนี้ GSC ได้มีการปรับปรุงและพัฒนาระบบการให้บริการลูกค้าเพื่อมุ่งตอบสนองประโยชน์สูงสุดของลูกค้า การนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai จะช่วยสร้างฐานทุนที่แข็งแกร่ง ทั้งนี้ บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปลงทุนขยายสาขา ปรับปรุงและพัฒนาอุปกรณ์และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ใช้ในการดำเนินงาน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการ
GSC มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ ACAP ถือหุ้น 64% กลุ่มปิยะรัฐ ถือหุ้น 3.02% และกลุ่มธนาสุวรรณดิถี ถือหุ้น 2.97% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO ที่ 1.70 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ที่ 30.51 เท่า โดยคำนวณจากผลประกอบการของบริษัทในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา (1 ม.ค.-31 ธ.ค.61) ซึ่งเท่ากับ 13.93 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลัง
การเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.0557 บาท ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิภายหลังจากหักภาษี ทุนสำรองตามกฎหมาย