บมจ.ผลิตภัณฑ์ตราเพชร (DRT) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการเมื่อวานนี้ (18 มี.ค.) มีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติเห็นชอบให้ลงทุนในโครงการสายการผลิตไฟเบอร์ซีเมนต์ (NT-11) ขนาดกำลังการผลิต 55,000 ตันต่อปี ณ โรงงานสระบุรี โดยใช้งบประมาณการลงทุนประมาณ 400 ล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันบริษัทใช้อัตราการกำลังการผลิต 88% จึงมีความจำเป็นต้องเพิ่มสายการผลิตดังกล่าว
ทั้งนี้ บริษัทได้ดำเนินการคัดเลือกผู้ขาย คือ ROTHENBURG COMPANY LIMITED แห่งประเทศไทย โดยบริษัทจะลงนามในสัญญาจัดซื้อ/จัดจ้าง เพื่อดำเนินการตามโครงการภายในเดือน มิถุนายน 2562 ซึ่งจะใช้ระยะเวลาในการติดตั้งประมาณ 18 เดือน โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการผลิตไม้สังเคราะห์และไดมอนด์บอร์ดได้ภายในไตรมาส 4/63
บริษัทจะทำการติดตั้งเครื่องจักรสำหรับการผลิตไม้สังเคราะห์ และไดมอนด์บอร์ด ซึ่งสินทรัพย์ที่ได้มาจะประกอบด้วย เครื่องจักรผลิตไม้และบอร์ดไฟเบอร์ซีเมนต์ ระบบไฟฟ้า และอาคารโรงงาน เป็นต้น โดยสามารถผลิตไม้สังเคราะห์ และไดมอนด์บอร์ด ได้ประมาณ 55,000 ตันต่อปี โดยโครงการจะตอบสนองความต้องการ ของลูกค้า ซึ่งจะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของบริษัท และรักษาอัตราการเติบโตของบริษัทอย่างต่อเนื่อง สำหรับแหล่งเงินทุนจะมาจากเงินกู้ยืมและกระแสเงินสดของบริษัทเอง
นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ DRT กล่าวว่า การเดินเครื่องจักรสายการผลิต NT-11 จะเข้ามาช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นด้านการผลิตสินค้า ช่วยลดการสูญเสียโอกาสการขายสินค้ากลุ่มไม้สังเคราะห์ ทำให้บริษัทสามารถเร่งผลิตสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการใช้ที่มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งกลุ่มลูกค้าโครงการ ร้านค้าผู้แทนจำหน่ายรายย่อย รวมถึงสามารถรองรับการขยายตัวของช่องทางจำหน่ายห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ ซึ่งกำลังได้รับความนิยมจากลูกค้าไปเลือกซื้อสินค้าผ่านช่องทางดังกล่าวมากขึ้น
สินค้ากลุ่มไม้สังเคราะห์ ถือเป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี จึงเป็นจังหวะเหมาะสมที่บริษัทจะลงทุนเพื่อขยายกำลังการผลิตในครั้งนี้ ที่สอดคล้องกับภาวะของตลาดไม้สังเคราะห์ที่มีอัตราขยายตัวได้ดีมาก โดยบริษัทคาดว่าจะใช้ระยะเวลาดำเนินการติดตั้งประมาณ 18 เดือน และจะสามารถดำเนินการผลิตไม้สังเคราะห์และไดมอนด์บอร์ดได้ภายในไตรมาส 4/63
"การลงทุนเพิ่มสายการผลิต NT11 ในครั้งนี้ ถือเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ในรอบ 5-6 ปีของ DRT เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและผลักดันเป้าหมายการดำเนินงานของบริษัทที่ต้องการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี"นายสาธิต กล่าว